สหรัฐนำเข้าจีนฮวบ ครึ่งปีแรกลด 35,600 ล้าน
นับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2018 สงครามการค้าจีน - สหรัฐ ก็รุนแรงขึ้นอีกขั้นจากการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์จากจีน 2.5% ตามมาด้วยการขึ้นภาษีครั้งที่ 2 ในผลิตภัณฑ์ประเภทเซมิคอนดัคเตอร์ และเคมีภัณฑ์ ในเดือนสิงหาคม ต่อมาจึงเป็นภาษีเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าในเดือนกันยายนตามลำดับ จนกระทั่งมาถึงคราวของการขึ้นภาษีครั้งที่ 4 และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งประกาศออกมาเมื่อเดือนที่แล้ว
ด้วยเหตุนี้เอง การนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐจึงลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพิจารณาจากสถิติการค้ารายไตรมาส ที่ออกโดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกาแล้ว พบว่าในช่วงไตรมาสที่ 3 ปี 2018 ยอดนำเข้าสินค้าจีนยังคงเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จนกระทั่งเริ่มลดลงในไตรมาสที่ 1 ปี 2019 และในครึ่งปีแรก สหรัฐนำเข้าสินค้าจีนลดลงเป็นมูลค่า 35,600 ล้านดอลลาร์ โดยสินค้าหมวดหมู่หลักที่มีการนำเข้าลดลงเป็นอย่างมากคือเครื่องจักร และระบบลำเลียง, สินค้าเบ็ดเตล็ด, วัสดุ, และเคมีภัณฑ์ และสินค้าหมวดหมู่ย่อยคือเครื่องมือรับส่งสัญญาณ, อุปกรณ์สำนักงาน, เฟอนิเจอร์ และเครื่องนอน, อุปกรณ์ประมวลผลอิเล็กทรอนิกส์, หลอดความร้อน แคโทดเย็น และท่อนำแสง ตามลำดับ ซึ่งลดลงจากเดิมกว่าครึ่งหนึ่ง
ในทางกลับกัน กลุ่มประเทศอาเซียน ซึ่งแม้จะมีกำลังผลิตต่ำ กลับกลายเป็นประเทศที่ได้รับการจับตาในฐานะผู้ส่งออกมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งไทย, เวียดนาม, อินโดนีเซีย, และฟิลิปปินส์ ยกตัวอย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ในหมวดเครื่องจักร และระบบลำเลียง กับสินค้าเบ็ดเตล็ด ซึ่งมีการนำเข้าจากจีนลดลงประมาณ 25% และ 75% ตามลำดับ ที่มีแนวโน้มจะมีการนำเข้าจากประเทศในภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้น และในปัจจุบัน สินค้าที่นำเข้าจากจีนลดลง และมีการนำเข้าจากอาเซียนแทนเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก มีดังต่อไปนี้
- เครื่องมือรับส่งสัญญาณ ยอดนำเข้าจากเวียดนามเพิ่มขึ้น
- อุปกรณ์สำนักงาน นำเข้าจากฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น
- เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องนอน นำเข้าจากเวียดนาม และอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น
ผู้รับผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์แสดงความเห็นว่า หากสงครามการค้ายังไม่สิ้นสุด อาเซียนจะได้รับผลประโยชน์เพิ่มจากการขึ้นภาษีสินค้าส่งออกของสหรัฐต่อจีน โดยเฉพาะในประเทศที่มีค่าแรงถูก เช่น เวียดนาม, อินโดนีเซีย, และฟิลิปปินส์
ส่วนประเทศไทยนั้น แม้จะไม่ติด 1 ใน 5 ประเทศที่มีการนำเข้าสินค้าหมวดหลักเพิ่มขึ้นจากสหรัฐ แต่ก็มีสินค้าที่มียอดสั่งเพิ่มขึ้น ประกอบด้วยเครื่องปรับอากาศ, ยานยนต์, และชิ้นส่วนยานยนต์ ซึ่งในกรณีของชิ้นส่วนยานยนต์นั้น เนื่องจากการส่งออกไปยังสหรัฐ จำเป็นต้องได้รับการรับรอง ซึ่งโดยทั่วไปมีขั้นตอนการดำเนินงานกินเวลากว่า 1 ปี ทำให้ชิ้นส่วนที่มียอดสั่งเพิ่มขึ้นเป็นชิ้นส่วนเดิมที่มีการส่งออกอยู่แล้วเป็นประจำ แต่ในกรณีที่มีบริษัทใดเริ่มทำการส่งออกชิ้นส่วนใหม่ตั้ งแต่ปี 2018 ก็อาจใกล้ได้เวลาที่ยอดสั่งชิ้นส่วนเหล่านั้นจะเพิ่มขึ้นแล้วก็เป็นได้