เมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา Isuzu ประกาศผลการเจรจาหุ้นส่วนกับ Cummins ผู้ผลิตเครื่องยนต์รถรายใหญ่ค่ายอเมริกัน เพื่อร่วมพัฒนาเครื่องยนต์รถบรรทุกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตอบรับกับนโยบายลดการปล่อยก๊าซมลพิษในระดับสากล โดยเนื้อหาความร่วมมือ ระบุถึงการพัฒนาเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ เทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า และ Joint Purchasing รวมถึงความเป็นไปได้ในการร่วมมือด้านอื่น ๆ ในภายภาคหน้า และตั้งเป้าเซ็นสัญญาภายในปีงบประมาณ 2018 นี้

Cummins เป็นบริษัทผู้พัฒนาเครื่องยนต์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องโครงสร้างเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับรถบรรทุก ยานยนต์เชิงพาณิชย์ และเครื่องจักรสำหรับงานก่อสร้าง และมีสาขาในกว่า 190 ประเทศทั่วโลก มีผลประกอบการมากถึง 2 ล้านล้านเยนในปี 2016 และกำลังผลิตเครื่องยนต์ 1.2 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งสูงกว่า Daimler AG และ Volvo ซึ่งเมื่อรวมกับกำลังผลิตที่ Isuzu มีแล้ว จะสามารถผลิตได้มากถึง 2 ล้านเครื่องต่อปี ซึ่งเป็นอัตราการผลิตเครื่องยนต์ในระดับท็อปของโลก

ปัจจุบัน มีผู้ให้ความเห็นเป็นจำนวนมาก ว่าเครื่องยนต์ดีเซลจะกลายเป็นระบบส่งกำลังหลักที่สำคัญของยานยนต์เชิงพาณิชย์ เนื่องด้วยข้อจำกัดของโครงสร้างพื้นฐานด้านสถานีชาร์จไฟและระยะขับขี่ของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่ง Isuzu ตั้งเป้าอาศัยองค์ความรู้ในการพัฒนาเครื่องยนต์ขนาดเล็ก และขนาดกลาง มาใช้ร่วมกับองค์ความรู้ด้านเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ที่ Cummins เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ ทั้ง 2 บริษัทยังมีพื้นที่การขายหลักที่แตกต่างกัน คือ Isuzu ที่โฟกัสตลาดเอเชีย ในขณะที่ Cummins โฟกัสตลาดอเมริกา และยุโรป จึงตัดสินใจว่า ความร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยขยายฐานลูกค้าของตนได้เป็นอย่างดี

เมื่อเดือนสิงหาคม 2018 Isuzu ได้ประกาศยุติการลงทุนร่วมกับ Toyota อย่างไรก็ตาม Mr. Kouichi Seto เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของบริษัทแสดงความเห็นว่าการจะโดดเดี่ยวในตลาดเป็นเรื่องยาก “Isuzu จึงอยู่ระหว่างการมองหาพันธมิตรในด้านต่าง ๆ เพิ่ม” และมีแนวโน้มจะจับมือกับบริษัทอื่น ๆ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่จำเป็นมากขึ้นหลังจากนี้ไป