แนวทาง Toyota ดันยอดขายโตสวนกระแส
Toyota Motor Corporation เผย ในปีที่ผ่านมา แม้ตลาดยานยนต์จะชะลอตัวทั่วโลก แต่สามารถทำยอดขายได้ดีในจีน และอเมริกาเหนือ โดยมียอดขายยานยนต์รวมอยู่ที่ 9,714,253 คันทั่วโลก ในขณะที่ซัพพลายเออร์บางส่วนรายงานว่า Toyota ตั้งเป้ายอดขายปี 2021 ไว้ที่ 10,180,100 คัน ซึ่ง Mr. Didier Leroy รองประธานบริษัท Toyota ได้แสดงความเห็นไว้ ดังนี้
“เหตุผลหลัก ที่ทำให้ยอดขายของ Toyota เพิ่มขึ้นสวนทางกับสภาวะตลาดยานยนต์โลก คือ การตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างจริงใจ และการพัฒนาการผลิตด้วยการนำแพลตฟอร์ม Toyota New Global Architecture (TNGA) เข้ามาใช้ เพื่อให้สามารถพัฒนายานยนต์โมเดลใหม่ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น”
โดยในจีน บริษัทสามารถทำยอดขายยานยนต์ได้ 1,620,000 ล้านคัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 9% สวนทางกับตลาดยานยนต์จีนที่ภาพรวมมียอดขายลดลง 8% โดยมียอดขายหลักมาจากโมเดลใหม่ของ COROLLA และ LEVIN ที่สำคัญ คือ ไม่มีการทำโปรโมชันลดราคาแข่งกับรถมือสอง
ส่วนในยุโรปและอเมริกาเหนือนั้น ยอดขายหลักมาจากรถยนต์ไฮบริด (Hybrid Vehicle: HV) ซึ่งทำยอดได้เพิ่มขึ้นจากเดิมมาก ผลจากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป ซึ่งมีมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด ทำให้ผู้บริโภคกว่า 50% เลือกซื้อรถยนต์ไฮบริดแทนรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
อย่างไรก็ตาม Toyota รายงานว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรน่าในจีน และการห้ามจำหน่ายรถยนต์ไฮบริดในอังกฤษ ซึ่งจะบังคับใช้ในปี 2035 อาจทำให้สถานการณ์เปลี่ยนแปลงได้ โดย Mr. Didier Leroy ย้ำว่า หลังจากนี้จะต้องวางกลยุทธ์และโมเดลรถที่จะวางจำหน่ายให้ดี และทุ่มเทให้กับการขายในตลาดที่ตนมีส่วนแบ่งสูง แทนที่จะสู้ในตลาดที่ทำยอดขายได้ยาก
นอกจากนี้ Toyota ยังเตรียมปรับผังการขายครั้งใหญ่ภายในปี 2020 เพื่อให้รองรับแนวทางของบริษัทในอนาคต โดยคาดว่าการเปลี่ยนแปลงจะเริ่มต้นภายในช่วงปี 2020 - 2025 และจะเริ่มจากตลาดญี่ปุ่นเป็นที่แรก อย่างไรก็ตาม ฝ่ายบริหารของบริษัทแสดงความเห็นว่า ในปีนี้หลังพ้นช่วงโอลิมปิกฤดูร้อน 2020 ไป ยอดขายยานยนต์ในญี่ปุ่นอาจลดลงจากค่าเฉลี่ยที่ผ่านมาถึง 100,000 คัน รวมถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น MaaS และ Ride Sharing ซึ่งอาจทำให้ยอดขายลดลงในช่วงเปลี่ยนผ่าน
นอกจากนี้บริษัทยังวางแผนเพิ่มรายได้ด้วยวิธีอื่น ๆ เช่น การเปิดโชว์รูมเป็นโรงเรียนสอนภาษาในวันหยุด และบริการรถเช่าแบบ on demand ผ่านเซอร์วิสของ Aisin Seiki และอื่น ๆ ในอนาคต