ขนส่งทางอากาศฮวบ ผลกระทบจากสงครามการค้าต่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์

อัปเดตล่าสุด 14 ส.ค. 2562
  • Share :

อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เริ่มส่อเค้าความเปลี่ยนแปลง หลังจากที่ความต้องการขนส่งสินค้าทางอากาศลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีให้หลังมานี้ ซึ่งเป็นผลจากการชะลอตัวของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์  ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และสิ่งทอ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า และเศรษฐกิจจีนเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งแม้ในส่วนของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์นั้นจะเป็นเพียงการลดลงชั่วคราว แต่ผู้เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมส่วนหนึ่งแสดงความเห็นว่ายังคงต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ระหว่างจีน และสหรัฐต่อไป

Japan Aircargo Forwarders Association (JAFA) รายงานว่า ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศจากประเทศญี่ปุ่นเริ่มลดต่ำลงกว่าปีก่อนหน้า นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2018 และลดลงถึง 29.4% ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และมีผู้ใช้บริการในไตรมาสที่ 2 ปีนี้ลดลงถึง 28.6% จากปีก่อนหน้า

Mr. Kenichi Shibasaki รองประธานบริษัท Yamato Holdings ผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น รายงานว่า การขนส่งสินค้าทางอากาศได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากตัวเลขที่หายไปนั้นเป็นตัวเลขการจัดส่ง ซึ่งมีปลายทางเป็นบริษัทในประเทศจีน และคาดว่าจะส่งผลต่อผลกำไรในปีงบประมาณนี้ลดลงจากที่คาดการณ์ไว้ ซึ่ง Hitachi Transport System รายงานเสริมว่า ปัจจุบันมีการเช่าพื้นที่สำหรับสต็อกสินค้าลดลงเป็นอย่างมาก 

Nippon Cargo Airlines แสดงความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า ไม่คิดว่าในปีนี้ ปริมาณการขนส่งสินค้าทางอากาศของบริษัทจะลดลงมากถึง 20% ซึ่งอาจส่งผลให้ต้องพิจารณาลดเที่ยวบิน และจำนวนเครื่องบินลงในอนาคต

ในขณะเดียวกัน All Nippon Airways รายงานว่า ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2018 ปริมาณการขนส่งสินค้าในแต่ละเดือนลดลง 10 - 20% จากเดือนก่อนหน้า ส่งผลให้ให้ในอุตสาหกรรมเกิดการแข่งขันรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยกล่าวแสดงความเห็นเพิ่มเติมว่า “อาจเป็นเพราะการผลิตในจีนบางส่วนเริ่มย้ายไปยังเวียดนาม และไต้หวันแล้ว