“สุริยะ” สั่ง กรอ. เดินหน้าขับเคลื่อนแฟคตอรี่ 4.0 รองรับการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโลก
ในงานสัมมนาและนิทรรศการ “ผลสำเร็จการขับเคลื่อน Factory 4.0” นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาและนิทรรศการ ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ ว่า ขณะนี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม มีนโยบายให้กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เร่งผลักดันการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาร่วมประยุกต์ใช้ในการกำกับดูแลโรงงานอุตสาหกรรม รวมถึงการนำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยมาประยุกต์ใช้ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงทางพลังงานเพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยให้สอดรับตามแนวทางนโยบาย Thailand 4.0
ทั้งนี้ในช่วงปี 61 กรมโรงงานอุตสาหกรรมสามารถผลักดัน Factory 4.0 ด้วยการสนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลลดการใช้พลังงานในโรงงานที่มีการใช้งานหม้อน้ำ หรือหม้อต้มที่ใช้ของเหลวเป็นสื่อนำความร้อน จำนวน 161 โรงงาน สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและช่วยประหยัดพลังงานแล้วกว่า 193 ล้านบาทต่อปี ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์รวมกว่า 268,596 ตันคาร์บอนไดออกไซต์ เทียบเท่าต่อปี ส่วนปี 62 ทาง กรอ. ได้ส่งเสริมโรงงานอุตสาหกรรมสู่ Factory 4.0 โดยการสนับสนุนเทคโนโลยีดิจิทัลสู่ Smart Safety ผ่านระบบ Safety Application การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในอุตสาหกรรมระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น ความปลอดภัยทางชีวภาพ (Bio Safety) และการประยุกต์ใช้ Computer Simulation สำหรับการตรวจสอบความปลอดภัย รวมจำนวน 180 โรงงาน “เฉพาะอุตสาหกรรมระบบทำความเย็นที่มีอยู่ในภาคอุตสาหกรรมกว่า 3,000 โรงงาน (โรงงานห้องเย็น โรงงานผลิตน้ำแข็งซอง และโรงงานผลิตน้ำแข็งหลอด) มีศักยภาพการประหยัดพลังงานถึง 83 ล้านบาท หรือ ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้รวมกว่า 13,540 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่าต่อปี
ทั้งนี้ กลุ่มอุตสาหกรรมอาหารหรืออุตสาหกรรมที่มีการใช้จุลินทรีย์หรือจุลินทรีย์ดัดแปลงทางพันธุกรรมจะเป็นกลุ่มที่มีศักยภาพหรืออุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะผลักดัน Factory 4.0 ให้เกิดความเข้มแข็งต่อไป” นายธีระยุทธ กล่าว
นายธีระยุทธ กล่าวต่อว่า “กระทรวงอุตสาหกรรมต้องการยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมไทยก้าวไปสู่ Smart Factory : Smart Safety โดยตั้งเป้าหมายจะขยายผล Safety Application : ไปยังโรงงานกว่า 70,000 โรงงาน ภายในปี 2564 ซึ่งที่ผ่านมา กรอ. ได้มีการผลักดันการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมไทย ตามแนวคิด Thailand 4.0 ภายใต้นโยบาย Factory 4.0 เป็นอย่างดี เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอุตสาหกรรมทั่วโลก ดังนั้นการขับเคลื่อน Factory 4.0 ด้วยการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาประยุกต์ใช้ก็จะช่วยให้อุตสาหกรรมไทยมีศักยภาพมากขึ้น”
การจัดงานในครั้งนี้ของ กรอ. ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่มีผู้เกี่ยวข้องให้ความสนใจร่วมงานสัมมนาและนิทรรศการกว่า 1,000 คน ทั้งผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม ผู้แทนจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรม และสื่อมวลชน เป็นต้น แสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนให้ความสำคัญในการผลักดันภาคอุตสาหกรรมไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยใช้กลไกผ่านการนำนวัตกรรมเพื่อการยกระดับผลิตภาพ เป้าหมายเพื่อปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมรายได้ปานกลางไปสู่อุตสาหกรรมรายได้สูง รวมถึงให้เกิดการกระจายรายได้ การสร้างโอกาสอย่างเท่าเทียม
นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึง การจัดงานสัมมนาและนิทรรศการ “ผลสำเร็จการขับเคลื่อน Factory 4.0” นี้ว่า กรอ. ได้นำหลักการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมให้ก้าวสู่ยุคเศรษฐกิจใหม่ภายใต้นโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล มาพัฒนางานในกระบวนการต่าง ๆ ของภาคอุตสาหกรรมที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมโรงงานอุตสาหกรรม โดยได้ดำเนินการศึกษา รวบรวมองค์ความรู้ และวิธีการในการเพิ่มประสิทธิภาพร่วมกับหน่วยงานภายในและภายนอกที่เกี่ยวข้องทั้งสถาบันการศึกษา และภาคเอกชนที่มีประสบการณ์ โดยมีเป้าหมายการยกระดับโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทยให้เป็น Smart Factory ในอนาคต
สำหรับภายในงานสัมมนาและนิทรรศการในครั้งนี้ จะประกอบไปด้วยกิจกรรม 3 ส่วนด้วยกัน
1. นิทรรศการ “ผลสำเร็จการขับเคลื่อน Factory 4.0" ประกอบด้วยระบบ Safety Application ในการตรวจประเมินด้านความปลอดภัยโรงงานอุตสาหกรรมด้วยตนเองผ่านเครื่องมือที่มีชื่อว่า “S-checklist” สามารถใช้ได้ ทั้งระบบปฏิบัติการ Android และ iOS ใช้ในการตรวจประเมินความปลอดภัยทั้งในด้านการทำงาน, ด้านการใช้งานสารเคมี, ด้านการป้องกันอัคคีภัย, ด้านการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า, การป้องกันการระเบิดฝุ่น เป็นต้น
2. จัดแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมรองรับอุตสาหกรรม 4.0 ภาคเอกชนให้ความสนใจและมาเข้าร่วมจัดแสดงมากกว่า 30 ราย โดยแบ่งเป็นโซนเกี่ยวกับหม้อน้ำสมองกล หรือ Smart Boiler การติดตามและควบคุมการทำงานของหม้อน้ำแบบดิจิทัลผ่านระบบเครือข่าย โซนเทคโนโลยีดิจิทัลในระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น และโซนเทคโนโลยีความปลอดภัยทางชีวภาพ (Biosafety)
3. การสัมมนาในหัวข้อที่น่าสนใจ 4 หัวข้อ ประกอบด้วย 1. ระบบ Safety Application ในการตรวจประเมินด้านความปลอดภัยโรงงานอุตสาหกรรม 2. การเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานในภาคอุตสาหกรรมระบบทำความเย็นที่ใช้แอมโมเนียเป็นสารทำความเย็น 3. อนาคตอุตสาหกรรมไทยกับความปลอดภัยทางชีวภาพ และ 4. การประยุกต์ใช้ Computer Simulation และเทคโนโลยี 4.0 นายทองชัย กล่าว