SMEs แห่ใช้ ศูนย์ Thai-IDC

อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 2562
  • Share :
  • 402 Reads   

กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) โชว์ผลการดำเนินงานปีงบประมาณพ.ศ.2561 เอสเอ็มอีตื่นตัวใช้บริการ ศูนย์ ITC 4.0 กว่า 3,000 ราย ปั้นผลิตภัณฑ์ต้นแบบกว่า 1,300 ผลิตภัณฑ์ คิดเป็นมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจกว่า 2,500 ล้านบาท ขณะที่ศูนย์ Thai-IDC โชว์ปั้นนักออกแบบ 300 ราย สร้างมูลค่าเศรษฐกิจ 2,875 ล้านบาท สำเร็จเกินคาดหมาย เดินหน้าทุ่มปี พ.ศ. 2562 ดันเอสเอ็มอีใช้บริการ ศูนย์ทั้ง 2 ศูนย์ ปูพรมสร้างเอสเอ็มอี 4.0 สอดรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0

นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 (Industry Transformation Center 4.0:ITC 4.0) เพื่อการขับเคลื่อนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถปรับโครงสร้างการผลิตและการออกแบบผลิตภัณฑ์ผ่านกลไกของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ที่มีอยู่ทั่วประเทศ 105 แห่ง ในปีงบประมาณปีพ.ศ. 2561 พบว่ามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้ามาใช้บริการทั้งสิ้น 3,000 ราย สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ต้นแบบได้ทั้งสิ้น 1,300 ผลิตภัณฑ์ คิดเป็นมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจประมาณ 2,500 ล้านบาท นับเป็นการยกระดับเอสเอ็มอีให้สามารถต่อยอดนวัตกรรม และงานวิจัยไปสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงขึ้นตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0

​ปัจจุบันศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 มีกระจายครอบคลุมทั่วประเทศ 105 แห่ง โดยเป็นการดำเนินงานของ กสอ. 13 แห่ง คือ ส่วนกลางที่ กสอ. กล้วยน้ำไท 1 แห่ง ส่วนภูมิภาคตั้งอยู่ที่ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคทั้ง 12 แห่ง และสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด 76 แห่ง นอกจากนี้ยังร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรที่เป็นเครือข่ายพร้อมให้บริการ ประกอบด้วย ITC-SME ดำเนินการโดยการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) 13 แห่ง CoRE-ITC ดำเนินการโดยสถาบันไทย-เยอรมัน บริการด้านระบบอัตโนมัติ 1 แห่ง Food-ITC ดำเนินการ โดยสถาบันอาหาร บริการด้านอาหาร 1 แห่ง และ Recycle-ITC ดำเนินการโดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) บริการด้านการนำของเสียกลับมาใช้ใหม่ 1 แห่ง

​นอกจากนี้ กสอ. ยังได้ขยายขอบเขตการทำงานของศูนย์ ITC 4.0 เชื่อมโยงไปยังศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Thailand-Industrial Design Center:Thai-IDC) ที่มีอยู่ 13 ศูนย์ทั่วประเทศ โดยการเชื่อมโยงบูรณาด้านการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยในปี พ.ศ.2561 ที่ผ่านมา ศูนย์ฯ ได้ให้บริการในด้านต่าง ๆ ประกอบด้วย การบริการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ จำนวน 530 ผลิตภัณฑ์ เชื่อมโยงนักออกแบบสู่สถานประกอบการเพื่อพัฒนากระบวนการออกแบบ จำนวน 360 กิจการ สร้างนักออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์ 300 ราย พัฒนาองค์ความรู้ด้านการออกแบบแก่บุคลากร จำนวน 1,780 ราย ก่อให้เกิดมูลค่าเศรษฐกิจ 2,875 ล้านบาท

​“สำหรับเป้าหมายการดำเนินงานของศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 รวมถึงศูนย์ Thai-IDC ในช่วงปีที่ผ่านมามีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้การตอบรับในการใช้บริการทั้ง 2 ศูนย์ เป็นจำนวนมาก สามารถสร้างมูลค่ารวม 5,375 ล้านบาท ด้วยการบริการของศูนย์ทั้ง 2 แห่ง ที่มีเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ทันสมัย รวมทั้งการพัฒนาออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้ประกอบการได้อย่างมีประสิทธิภาพ” นายกอบชัยกล่าว

​​นายกอบชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตัวอย่างของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เข้ามาใช้บริการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 จนสามารถยกระดับการพัฒนาไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม อาทิ บริษัท บัวทอง ฟู้ด แอนด์ เบเวอร์เรจส์ ประเทศไทย ผู้ผลิตอัญชันมะนาวผงสำเร็จรูปพร้อมชงและเก็กฮวยผงสำเร็จรูปพร้อมชง จังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้ามาใช้บริการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 1 ในการออกแบบปรับปรุงบรรจุภัณฑ์ใหม่ พร้อมออกแบบฉลากสินค้าเพื่อสร้างแรงจูงใจในการซื้อสินค้า ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น 147,000 บาทต่อปี

​บริษัท เคอร่าไทล์ จำกัด ผู้ผลิตกระเบื้องเซรามิก เข้ามาใช้บริการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาวัสดุอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ จ.ลำปาง ในด้านการลดต้นทุนวัตถุดิบและเชื้อเพลิง โดยการรีไซเคิลจากวัสดุแก้วเหลือใช้มาเป็นส่วนผสมในน้ำยาเคลือบกระเบื้องเซรามิก ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าได้ 250 ล้านบาทต่อปี ​และบริษัท ทีเอ็นฟาร์ม เทรดดิ้ง จำกัด ผู้ผลิตสมุนไพรผสมถั่งเช่าและถั่งเช่าสกัดแคปซูล ใช้บริการศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม 4.0 ณ ศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคที่ 7 จ.อุบลราชธานี ในการปรับปรุงโรงเพาะเลี้ยงถั่งเช่าให้เป็นระบบ สมาร์ทฟาร์มมิ่งเพื่อสร้างผลผลิตเพิ่มขึ้น มีการออกแบบพัฒนาฉลากและบรรจุภัณฑ์ โดยนำระบบซอฟท์แวร์ 3 มิติ มาใช้ผลิตต้นแบบที่เสมือนจริง ก่อนตัดสินใจผลิตบรรจุภัณฑ์จริง ทำให้ตรงกับ ความต้องการของผู้ผลิต สามารถเพิ่มยอดขาย 1,800,000 บาทต่อปี