ก.อุตฯ ยกเครื่อง..ยันใช้ระบบ Digital และ Big Data กำกับดูแลโรงงานและผู้ประกอบการ

อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 2562
  • Share :

กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งผลักดันระบบ i-Industry ตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ด้วยการใช้ระบบ Digital และ Big Data ยกระดับการให้บริการ การกำกับดูแลโรงงาน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความยุ่งยาก ความผิดพลาดและความซ้ำซ้อน รวมทั้งอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อทรานส์ฟอร์มสู่อุตสาหกรรม 4.0

นายจุลพงษ์ ทวีศรี หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมกำลังเร่งปฏิรูปการปฏิบัติงานตามนโยบายรัฐบาลดิจิทัล (Digital Government) ประกอบกับกระทรวงได้มีการปรับปรุงกฎหมายเพื่อเปลี่ยนวิธีการกำกับดูแลโรงงานและผู้ประกอบการ ด้วยการนำระบบดิจิทัลที่มีชื่อว่า “ระบบ i-Industry” มาใช้แทนการปฏิบัติงานแบบเดิม ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความโปร่งใสในการปฏิบัติงาน รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในยุค 4.0 โดยจะเร่งผลักดันให้นำระบบ  i-Industry มาใช้ในการให้บริการและปฏิบัติงานของกระทรวงอุตสาหกรรมในทุกมิติ เช่น ระบบยื่นขอรับใบอนุญาตออนไลน์ ระบบรายงานการประกอบการอุตสาหกรรมผ่านระบบออนไลน์เพื่อทดแทนการตรวจสถานประกอบการในการต่ออายุใบอนุญาต เช่น ใบอนุญาต ร.ง.4 ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ใบอนุญาต มอก. ของสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม Eco Sticker ของสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม รวมถึงการชำระค่าบริการต่างๆ ผ่านระบบออนไลน์ของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมกว่าแสนราย โดยการปฏิรูปนี้จะเกิดขึ้นทั่วประเทศภายในปีนี้
 
ด้าน นายณัฐพล รังสิตพล ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ในฐานะประธานคณะทำงานบูรณาการข้อมูลสารสนเทศและการบริการภาครัฐ (Big Data กระทรวงอุตสาหกรรม) กล่าวว่า การใช้ระบบ i-Industry จะเป็นการปฏิรูปการปฏิบัติงานจากเดิมที่ผู้ประกอบการจะต้องส่งเอกสารต่าง ๆ มากมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งเป็นวิธีการที่ล้าสมัยให้เป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด โดยเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการอุตสาหกรรมและหน่วยงานภายใต้กระทรวง เพื่อให้เกิดการให้บริการภาครัฐแบบเบ็ดเสร็จ (online service) ด้วยการอำนวยความสะดวกในการให้บริการกับผู้ประกอบการผ่านระบบดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการปฏิบัติงาน ลดต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ ลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น ลดการใช้ทรัพยากรที่ไม่จำเป็น และลดความซ้ำซ้อนจากการเก็บข้อมูลของแต่ละหน่วยงาน ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลเข้าร่วมกันผ่านระบบ i-Industry ซึ่งเป็นฐานข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) โดยจะเชื่อมข้อมูลจากหน่วยงานที่รับผิดชอบในแต่ละภาคส่วนและยึดถือข้อมูลหลักจากหน่วยงานนั้น เช่น การเชื่อมข้อมูลของผู้ประกอบการจากหน่วยงานภายในกระทรวงอุตสาหกรรมเพื่อลดการกรอกข้อมูลที่ซ้ำซ้อน การเชื่อมข้อมูลบุคคลจากหมายเลขบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านจากกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย การเชื่อมข้อมูลสถานประกอบการจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
 
นายณัฐพล กล่าวต่อว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้เปิดตัวระบบ i-Industry และระบบรายงานการประกอบการอุตสาหกรรมในงาน Thailand Industry Expo 2019 เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งระบบนี้จะทำให้ผู้ประกอบการสามารถกรอกข้อมูลรายงานการประกอบการอุตสาหกรรมด้วยตนเองในแบบฟอร์มดิจิทัลเดียว (Single Form) ผ่านระบบ i-Industry เพื่อใช้ข้อมูลดังกล่าวทดแทนการตรวจสถานประกอบการเพื่อต่ออายุใบอนุญาตต่าง ๆ ตามที่แต่ละหน่วยงานของกระทรวงกำกับดูแลอยู่ ทั้งนี้ จะมีการจัดสัมมนาเพื่อสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยจะเริ่มที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 1 สิงหาคม นี้ เป็นลำดับแรก