ไฮสปีดซีพี ติดล็อกเวนคืนเต็มที่แค่ 72% สั่ง 3 กระทรวงสนธิกำลังรื้อท่อก๊าซ-เสาไฟฟ้า-ท่อประปา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือ EEC ซึ่งมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธาน ได้รับทราบและพิจารณา ความก้าวหน้าโครงการ EEC Project List 5 โครงการ ประกอบด้วย
1) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 นั้นสัญญาร่วมทุนได้ผ่าน ครม. ไปแล้วเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2562 และการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) จะเสนอขอขยายเขตนิคมอุตสาหกรรมเข้า ครม. ในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 โดยเอกชนพร้อมลงนามในวันที่ 1 ตุลาคมนี้
2) โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา และเมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งศาลปกครองเห็นตาม คณะกรรมการคัดเลือก และมติอุทธรณ์ของบอร์ด EEC ไม่รับเอกสาร 2 กล่อง (กล่องข้อเสนอแผนธุรกิจ และกล่องข้อเสนอผลตอบแทนทางการเงิน) ของกลุ่มกิจการร่วมค้าธนโฮลดิ้ง ซึ่งบริษัทฯ ได้ไปยื่นคำร้องกับศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2562 อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการคัดเลือกจะดำเนินการต่อโดยกำหนดพิจารณาเอกสารทางเทคนิคให้จบภายในวันที่ 9 ตุลาคม 2562 และเปิดซองการเงิน เพื่อหาผู้เข้าเจรจาสัญญา ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและลงนามได้ภายในเดือนตุลาคม 2562
3) โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งบอร์ด EEC รับทราบ การวางกำหนดการส่งมอบที่ดินให้แล้วเสร็จโดยเร็ว คือ ส่งมอบที่ดิน 72% ภายใน 1 ปี หลังลงนามในสัญญาร่วมลงทุน เพื่อให้เอกชนเริ่มก่อสร้างโครงการ
และเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดการรื้อย้ายท่อก๊าซ ยาว 12 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 16 จุด กระทรวงมหาดไทย เร่งรัด ย้ายท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ 4 จุด ย้ายเสาส่ง ไฟฟ้าแรงสูงยาว 14 กม. ยกเสาส่งไฟฟ้าแรงสูง 39 จุด ย้ายท่อประปาขนาดใหญ่ยาว 2 กม. และกระทรวงคมนาคม โดย รฟท.ใช้สิทธิ์เร่งรัดให้ย้ายท่อน้ำมันของบริษัทเอกชน ระยะทาง 44 กม. รวมทั้งเร่งรัด พ.ร.ฎ.เวนคืนที่ดิน ซึ่งจะทำให้การส่งมอบพื้นที่โครงการเป็นไปตามแผนงาน และโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จได้ตามเป้าหมาย คาดว่าจะลงนามได้ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้
4.) โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F ซึ่งศาลปกครองมีมติให้คำพิพากษา ดังนี้
1. ให้ถอนฟ้องคำสั่งของคณะกรรมการคัดเลือกฯ ที่ให้กิจการร่วมค้าเอ็นซีพี ไม่ผ่านการประเมินในซองที่ 2
2. ให้การเพิกถอนคำสั่งดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ คณะกรรมการคัดเลือกฯ มีคำสั่ง และให้มีผลต่อไป จนกว่ามีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุด
3. ให้ยกฟ้อง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 (กพอ.) และผู้ถูกฟ้องคดีที่ 3 (คณะอนุกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ)
4. คณะกรรมการคัดเลือกฯ จะเร่งดำเนินการต่อไป