EEC หนุนบริษัทตั้งกิจการใหม่ต่อเนื่อง รับการพัฒนาในพื้นที่
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยการพัฒนาพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ คาดทั้งปีมีบริษัทตั้งใหม่ 7.2 - 7.6 หมื่นราย
นางโสรดา เลิศอาภาจิตร์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยยอดการจดทะเบียนธุรกิจเดือนสิงหาคม 2562 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 5,973 ราย เทียบกับเดือนกรกฎาคม 62 ที่ผ่านมา ลดลง 8% และลดลง 7% จากช่วงเดียวกันของปี 2561 โดยธุรกิจที่จัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร มีทุนธุรกิจจัดตั้งใหม่ 17,172 ล้านบาท ลดลง 25% จากเดือนก่อนหน้า และลดลง 26% จากปีก่อน
ขณะที่ ธุรกิจเลิกกิจการในเดือนสิงหาคม 62 มีจำนวน 1,755 ราย เพิ่มขึ้น 10% จากเดือนก่อนหน้า แต่ลดลง 1% จากปีก่อน ธุรกิจที่เลิกสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป, ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจภัตตาคารและร้านอาหาร โดยทุนจดทะเบียนเลิกมีจำนวน 28,933 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 250% จากกรกฎาคม 62 และเพิ่มขึ้น 180% จากปีก่อน
ส่งผลให้ยอดรวมธุรกิจจัดตั้งใหม่สะสมช่วง 8 เดือนของปี 62 (ม.ค.-ส.ค.) มีจำนวน 50,654 ราย เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เพิ่มขึ้น 1% มีทุนจดทะเบียนตั้งใหม่รวม 157,794 ล้านบาท ลดลง 18% และยอดธุรกิจเลิกกิจการรวม 10,016 ราย เพิ่มขึ้น 3% มีทุนจดทะเบียนเลิกรวม 59,548 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7%
นางโสรดา กล่าวว่า แนวโน้มการจดทะเบียนตั้งธุรกิจใหม่จะขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องตามแรงกระตุ้นของรัฐบาล ทั้งการส่งเสริมการท่องเที่ยว การขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับฐานราก การส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะการตั้งบริษัทใหม่ในเมืองรอง เพื่อรองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป ธุรกิจขนส่งสินค้าและคน และธุรกิจขายปลีก น่าจะเติบโตได้ดี สอดคล้องกับผลสำรวจของกรมฯ ที่พบว่าการตั้งธุรกิจใหม่เริ่มขยายตัวจากพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ไปสู่เมืองรองมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การตั้งธุรกิจใหม่จะเริ่มลดลงในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 62 (ต.ค.-ธ.ค.) เพราะไม่อยากจัดส่งงบการเงิน แต่ยังเชื่อว่ายอดจดตั้งใหม่ทั้งปีจะอยู่ในระดับ 7.2 - 7.6 หมื่นราย
ส่วนการลงทุนประกอบธุรกิจในไทยเดือนสิงหาคม 62 พบว่า มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น 49 ราย ลดลง 23% จากเดือนกรกฎาคม 62 แต่มีเม็ดเงินลงทุน 18,870 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74% จากเดือนก่อนหน้า นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น 16 ราย เงินลงทุนกว่า 10,539 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ เยอรมัน 6 ราย เงินลงทุน 54 ล้านบาท และสิงคโปร์ 5 ราย เงินลงทุน 185 ล้านบาท
อ่านบทความ และรับข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่ : www.eeco.or.th