กระทรวงอุตฯ สั่งปิดโรงงานระยอง–พบอีกแห่งเป็นโรงงานเถื่อน

กระทรวงอุตฯ ลุยตรวจโรงงานระยอง สั่งปิด 1 แห่ง–อีกแห่งพบเป็นโรงงานเถื่อน เหตุชาวบ้านร้องกลิ่นเหม็น

อัปเดตล่าสุด 17 พ.ย. 2568
  • Share :

กระทรวงอุตสาหกรรมลงพื้นที่จังหวัดระยอง หลังชาวบ้านร้องเรียนกลิ่นเหม็นรบกวนวงกว้าง ผ่านแพลตฟอร์ม “แจ้งอุต” และสายด่วน พบหนึ่งโรงงานฝ่าฝืนคำสั่งไม่ปรับปรุงแก้ไขจนต้องสั่งปิดทันที ขณะที่อีกแห่งเข้าข่ายโรงงานเถื่อน ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการ เตรียมดำเนินโทษตามกฎหมายอย่างเข้มงวด

17 พฤศจิกายน 2568, สมุทรปราการ​ — กระทรวงอุตสาหกรรม ได้รับเรื่องร้องเรียนการประกอบกิจการของโรงงาน ผ่านแพลตฟอร์ม “แจ้งอุต” และโทรศัพท์มาร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นจากการประกอบกิจการ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของประชาชน โดยรอบเป็นวงกว้าง นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รับทราบเรื่องดังกล่าวจึงสั่งการชุดปฏิบัติการ “เต็มเหนี่ยว” กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย นายฐาปกรณ์ กุลเจริญ เลขานุการรัฐมนตรี หัวหน้าทีมเต็มเหนี่ยว เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) สนธิกำลังเข้าตรวจสอบหาโรงงานที่เป็นต้นตอสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนบริเวณ ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง จำนวน 2 โรงงาน คือ

1) บริษัท พีอาร์เอ็ม อินดัสทรี จำกัด ประกอบกิจการ ทำเม็ดพลาสติกเกรดบี ตั้งอยู่เลขที่ 999/1 ถ.ชากกลาง-มิตรประชา ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง จ.ระยอง พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ตรวจติดตามผลการปฏิบัติตามคำสั่งฯ พบว่าโรงงานมิได้ปฏิบัติให้เป็นไปตามคำสั่งฯ กล่าวคือ ไม่มีการปรับปรุงแก้ไขโรงงาน และไม่จัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วจากเหตุเพลิงไหม้ ออกไปกำจัดอย่างถูกต้อง มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และขณะตรวจสอบยังพบกลิ่นเหม็น คาดว่าเกิดจากระบบบำบัดอากาศไม่มีประสิทธิภาพและไม่ปรากฏผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศ นอกจากนี้ ยังพบการติดตั้งเครื่องจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังไม่มีการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย ซึ่งผิดเงื่อนไขการรับใบอนุญาตโรงงาน ในวันนี้จึงมีคำสั่งฯ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 39 วรรคหนึ่ง ออกคำสั่งฯให้ บริษัท พีอาร์เอ็ม อินดัสทรี จำกัด หยุดประกอบกิจการโรงงานทันที 

นายฐาปกรณ์ เปิดเผยว่า “สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โรงงานแห่งนี้ได้รับผลกระทบจากเกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานที่อยู่ติดกัน ทำให้ สอจ.ระยอง ได้มีคำสั่งให้แก้ไขปรับปรุงโรงงานฯ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ตุลาคม 2568 แต่เมื่อถึงกำหนดระยะเวลาดังกล่าวโรงงานไม่ได้ดำเนินการใด ๆ และยังมีการประกอบกิจการอยู่ หากยังมีพฤติกรรมฝ่าฝืนอีก จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และต้องถูกปรับอีกวันละ 5,000 บาท จนกว่าจะหยุดประกอบกิจการ ขณะที่สถาปนิกหรือวิศวกรที่ฝ่าฝืนทำงานในโรงงานที่ถูกสั่งหยุดก็มีโทษเช่นเดียวกัน”

2) บริษัทเพชรงามรีไซเคิลจำกัด ประกอบกิจการคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย ผลตรวจสอบพบว่ามีการประกอบกิจการคัดแยกสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย เข้าข่ายโรงงานลำดับที่ 105 ตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 ซึ่งสถานประกอบการดังกล่าวไม่สามารถแสดงใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานได้ ลักษณะดังกล่าวเข้าข่ายการกระทำความผิดตามมาตรา 12 วรรค 1 และ วรรค 2 คือตั้งและประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือโรงงานเถื่อน มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดต้องการร้องเรียนให้ทีมเต็มเหนี่ยวเข้าตรวจสอบสามารถร้องเรียนมาที่ “แจ้งอุต” ซึ่งสามารถร้องเรียนได้ ตลอด 24 ชั่วโมง 

 

#กระทรวงอุตสาหกรรม #จัดระเบียบอุตสาหกรรม #โรงงานเถื่อน #มลพิษอุตสาหกรรม #โรงงานหลอมโลหะ #ธนกร #ชุดเต็มเหนี่ยว #ลดฝุ่นPM25 #ชาวบ้านปลอดภัย #สิ่งแวดล้อมไทย #ปราบโรงงานเถื่อน #MReportTH #IndustryNews

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / X / YouTube @MreportTH