โดรนการเกษตร, เกษตรอุตสาหกรรม, เทคโนโลยีการเกษตร, เทคโนโลยีเกษตรอัจฉริยะ, เทคโนโลยีเกษตรสมัยใหม่, กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม

DIPROM เดินหน้ายกระดับธุรกิจเกษตรด้วยเทคโนโลยีโดรน สู่เกษตรอุตสาหกรรม

อัปเดตล่าสุด 28 ก.พ. 2565
  • Share :

'ดีพร้อม' ขับเคลื่อน DIPROM CARE นำเทคโนโลยีโดรน-ดาวเทียม ช่วยเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร พร้อมผลักดันเกษตรกรไทยสู่ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรม

วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ดร.ณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หรือดีพร้อม ขานรับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ในการขับเคลื่อนโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ หรือ BCG Model (Bio economy - Circular Economy - Green Economy) ด้วยการนำองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เข้าไปพัฒนาครอบคลุมอุตสาหกรรมเป้าหมายควบคู่ไปกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจอันเนื่องมาจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด-19 โดยการช่วยเหลือและให้คำแนะนำผู้ประกอบการ ตลอดจนการยกระดับศักยภาพภาคการเกษตรไปสู่เกษตรอุตสาหกรรมด้วยการนำหลักเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) ตามโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ หรือ BCG Model ที่มุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ โดยการนำองค์ความรู้มาผสมผสานกับการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาต่อยอดการประกอบการธุรกิจ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิตให้กับเกษตรกร ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการครอบคลุมในหลากหลายมิติ ทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรมในการพัฒนาศักยภาพและเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ โดยเฉพาะมุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพนักธุรกิจเกษตรสู่ผู้ประกอบการเกษตรอุตสาหกรรม เนื่องจากมีบทบาทสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งการพัฒนาจากเกษตรกรรมสู่เกษตรอุตสาหกรรมนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการนำเทคโนโลยีมาต่อยอดการผลิต

“ดีพร้อมได้เล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวข้างต้น จึงมุ่งเน้นที่จะหาแนวทางการส่งเสริมและพัฒนาเกษตรกรสู่การเป็นนักธุรกิจเกษตร ดังนั้น ดีพร้อม จึงได้จัดทำกิจกรรม “ดีพร้อม พัฒนาผลิตภาพด้วยเทคโนโลยีเกษตรอุตสาหกรรม (DIPROM Agro-Tech Productivity)” เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน นักธุรกิจเกษตร เข้าถึงเทคโนโลยีโดรน รวมทั้งยกระดับกระบวนการผลิตจากเกษตรกรรมสู่เกษตรอุตสาหกรรม โดยนำเทคโนโลยีโดรนสำหรับการผลิตเชิงอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและช่วยให้เพิ่มผลผลิตได้อย่างรวดเร็ว ตลอดจนมีการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อวิเคราะห์การบริหารจัดการ วางแผนการผลิตและดูแลรักษาได้อย่างเหมาะสม ซึ่งจะสามารถประเมินสุขภาพพืชที่เพาะปลูกโดยใช้ภาพถ่าย Normalized Difference Vegetation Index (NDVI) จากดาวเทียมในการประเมินข้อมูลพื้นฐาน (Baseline) ก่อนปรับปรุงและสนับสนุนให้เกิดการทดลองพัฒนาต่อไป โดยทาง ดีพร้อม จะเข้าไปให้บริการคำปรึกษาแนะนำเชิงลึก ณ สถานประกอบการด้วยเทคโนโลยีที่เหมาะสมและสำรวจแปลงเกษตร พร้อมทั้งออกแบบการพัฒนาปรับปรุง ดังนี้ 1. การประเมินสุขภาพพืชที่เพาะปลูกโดยใช้ภาพถ่าย Normalized Difference Vegetation Index (NDVI) จากดาวเทียม เพื่อประเมินข้อมูลพื้นฐาน (Baseline) ก่อนการปรับปรุง 2. การสนับสนุนในการทดลองพัฒนา อาทิ การส่งทีมโดรนเกษตรเพื่อทำการฉีดพ่นสารเสริมประสิทธิภาพการเจริญเติบโต โดยหลังการฉีดพ่นระยะเวลาหนึ่งแล้ว จะทำการประเมินผลการพัฒนาปรับปรุงโดยภาพถ่าย NDVI และ 3. ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ทราบถึงผลของเทคโนโลยีที่ได้ทดลองใช้ต่อการพัฒนาในด้านต่าง ๆ อาทิ การลดต้นทุนการผลิต การเพิ่มความรวดเร็วในการดำเนินงานการเพิ่มประสิทธิภาพความสม่ำเสมอของการเจริญเติบโตของพืชผล จากการประเมินด้วยเทคโนโลยีภาพถ่ายดาวเทียมและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้ผลผลิตมีคุณภาพสม่ำเสมอและสามารถเข้าถึงได้ทุกพื้นที่และจะช่วยส่งเสริมความยั่งยืนให้แก่ธุรกิจเกษตรได้”

ดร.ณัฐพล กล่าวเพิ่มเติม ในปี 2565 ดีพร้อม ได้ดำเนินงานภายใต้ นโยบาย “DIProm CARE: ดีพร้อม แคร์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการให้ตอบโจทย์ความต้องการในทุกมิติและสอดรับกับบริบททั้งในชิงเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งใน ดีพร้อมแคร์ (CARE) คือ การพัฒนาและยกระดับศักยภาพผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ภายใต้สถานการณ์ทุกการเปลี่ยนแปลง (Reformation) โดยเฉพาะการดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบันที่ส่งผลให้การประกอบธุรกิจต้องตระหนักและมีการปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งปัญหาที่พบเจอของผู้ประกอบการ เช่น เทคโนโลยี การพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์กับแต่ละตลาด หรือแม้แต่กระทั่งความสามารถของแรงงานในแต่ละภูมิภาคที่กลับคืนถิ่น ดีพร้อมจึงตระหนักและได้ปฏิรูปกลไกการดำเนินงานในภาพรวมของทุกโครงการและกิจกรรมให้มีรูปแบบการทำงานที่สอดคล้องกับยุค New Normal หรือเศรษฐกิจวิถีใหม่ โดยได้วางรูปแบบและโปรแกรมสนับสนุนภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงนักธุรกิจเกษตรสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรม ประกอบด้วย 4 ด้าน ซึ่งหนึ่งนั้น คือ การสนับสนุนปัจจัยเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม ด้วยการการดึงเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจด้วยการนำ Digital SI-for-SME โดยการเชื่อมโยงผู้ประกอบการที่มีศักยภาพด้านออโตเมชันมาสนับสนุนการประกอบการเพื่อเป็นการสร้างธุรกิจที่ตอบโจทย์บริบทการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและสามารถช่วยพัฒนาประสิทธิภาพการผลิตของนักธุรกิจเกษตรสู่การเป็นเกษตรอุตสาหกรรมได้อย่างดี และส่งผลให้เกิดความยั่งยืนในอนาคตต่อไป ดร.ณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH