กรมการค้าต่างประเทศ, ส่งออกไทย 2566, หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าแบบอิเล็กทรอนิกส์ e-Form D ในกลุ่มสินค้าขาเข้าจากอาเซียน DFT บริการ C/O Self-Printing

ก.พาณิชย์ กาง Road Map เชื่อม e-Form D สินค้าขาเข้าของอาเซียน และเตรียมเปิดบริการ C/O Self-Printing

อัปเดตล่าสุด 12 ก.ค. 2566

กรมการค้าต่างประเทศ กำหนดแผนการเชื่อมโยงหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form D แบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Form D) กรณีสินค้าขาเข้าจากประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเข้าระบบ Paperless เต็มรูปแบบ ผ่านระบบงาน SMART C/O ในการอำนวยความสะดวกให้ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ผู้ประกอบการยังสามารถพิมพ์หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin: C/O) ทุกกรอบความตกลงได้ด้วยตนเอง (Self-Printing) ผ่านระบบงานดังกล่าว

วันที่ 11 กรกฎาคม 2566 นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา กรมฯ ได้ให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียนแบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Form D โดยสามารถเชื่อมโยงข้อมูล e-Form D กับประเทศสมาชิกอาเซียนครบทั้ง 10 ประเทศ ผ่านระบบ ASEAN Single Window (ASW) แล้ว อย่างไรก็ตาม อาเซียนพบว่าการเชื่อมโยงดังกล่าวยังมีข้อจำกัด ทำให้การตรวจสอบข้อมูล e-Form D ของระบบศุลกากรประเทศปลายทางมีความล่าช้า ต่อมา ปี 2564 ที่ประชุมคณะทำงานด้านการพัฒนาระบบ ASEAN Single Window (ASEAN Single Window Steering Committee: ASWSC) มีมติรับรองโครงสร้างข้อมูลใหม่ (ATIGA e-Form D inside Common Header MIG v.3.1.3) ที่มีการปรับปรุงโครงสร้างการเชื่อมโยงข้อมูลให้เป็นมาตรฐานมากขึ้น ช่วยให้ระบบการตรวจสอบข้อมูล e-Form D ของประเทศปลายทางมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการในการผ่านพิธีการศุลกากรนำเข้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งขณะนี้อาเซียนภายใต้คณะทำงานด้านเทคนิค (ASW TWG) อยู่ระหว่างการทดสอบระบบภายใต้โครงสร้างข้อมูลใหม่ โดยกรมศุลกากรซึ่งเป็นหน่วยงานหลักของไทย และกรมฯ ได้เข้าร่วมทดสอบระบบดังกล่าวกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศมาอย่างต่อเนื่อง

RCEP มีผลบังคับใช้ครบ 15 ประเทศสมาชิกแล้ว

ทั้งนี้ กรมฯ ได้เตรียมแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวของอาเซียน โดยพัฒนาระบบงานให้บริการฯ ภายใต้โครงการยกระดับการให้บริการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าด้วยนวัตกรรมดิจิทัล (DFT SMART Certificate of Origin: DFT SMART C/O) เพื่อรองรับการเชื่อมโยงภายใต้โครงสร้างข้อมูลใหม่ และต่อยอดการเชื่อมโยงข้อมูล e-Form D สินค้าขาเข้าจากอาเซียนมายังระบบการให้บริการของกรมฯ ทำให้ลดภาระของผู้ประกอบการที่ไม่ต้องแนบเอกสาร Form D ขาเข้าจากประเทศต้นทาง เพื่อประกอบการพิจารณาในการขอ e-Form D กรณี Back-to-Back และ Accumulation กับกรมฯ อีกต่อไป นอกจากนี้ ภายใต้โครงการดังกล่าว ผู้ประกอบการยังสามารถเลือกพิมพ์หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าทุกประเภทได้ด้วยตนเอง (Self-Printing) โดยไม่ต้องเดินทางมารับ C/O ที่หน่วยงานให้บริการของกรมฯ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัด (สพจ.) ที่ให้บริการอีกต่อไป เพื่อลดภาระลดค่าใช้จ่าย และระยะเวลาในการขอรับบริการฯ ซึ่งกรมฯ คาดว่าจะเปิดให้บริการ C/O Self-Printing นี้เป็นลำดับแรก ก่อนการเชื่อมโยงข้อมูล e-Form D สินค้าขาเข้าจากอาเซียน (Paperless) ที่ยังคงต้องรอความพร้อมจากผลการทดสอบระบบภายใต้โครงสร้างข้อมูลใหม่ให้ครบทั้ง 10 ประเทศสมาชิกอาเซียน

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมฯ และ สพจ. ให้บริการออก C/O ทุกประเภทมากกว่าหนึ่งล้านฉบับในแต่ละปี โดยปี 2565 ที่ผ่านมา กรมฯ ออก C/O จำนวน 1,140,850 ฉบับ คิดเป็นมูลค่ากว่า 105,333 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ดังนั้น แผนการยกระดับการให้บริการภายใต้โครงการ SMART C/O จึงนับเป็นการเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการออกหนังสือรับรองฯ สู่ระบบ Paperless และอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการได้อย่างแท้จริง

ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักบริการการค้าต่างประเทศ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2547 4830, 0 2547 4838 หรือสายด่วน 1385 และ www.dft.go.th

บทความยอดนิยม 10 อันดับ