กรมวิทยาศาสตร์บริการ พัฒนาระบบยานยนต์ Connected and Autonomous Vehicle: CAV

อว. พัฒนา 'ยานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ' ทดสอบใช้งานจริงแล้วที่ EECi วังจันทร์วัลเลย์ ระยอง

อัปเดตล่าสุด 11 ต.ค. 2565
  • Share :

กระทรวงการอุดมศึกษาฯ โดยกรมวิทยาศาสตร์บริการ เดินหน้าพัฒนายานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ทดสอบการใช้งานจริงที่ความเร็วสูงสุด 45 กม./ชม. บนถนนในพื้นที่ EECi วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง เพื่อยกระดับเทคโนโลยียานยนต์แห่งอนาคตของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ดร.นพ.ปฐม สวรรค์ปัญญาเลิศ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) กล่าวว่า วศ. เป็นหน่วยงานรัฐที่มีบทบาทหน้าที่ในการใช้องค์ความรู้ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ รวมถึงการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีนวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ที่ท้าทายทั้งด้านเศรษฐกิจโดยเฉพาะการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ขับขี่อัตโนมัติ ถือเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีชั้นแนวหน้าที่จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต ซึ่งเป็นนวัตกรรมระดับ Mega Trend ที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจ

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยียานยนต์ขับขี่อัตโนมัติมีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยที่ยังไม่ได้รับการยอมรับในสังคมปัจจุบัน โดย วศ. มุ่งมั่นดำเนินโครงการสร้างสนามทดสอบรถอัตโนมัติหรือ Connected and Autonomous Vehicle (CAV) Proving Ground ขึ้นที่เขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เพื่อหวังยกระดับคุณภาพของยานยนต์แห่งอนาคตที่พัฒนาและผลิตในประเทศให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ซึ่งการดำเนินงานมีความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด วศ. ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจัดซื้อเครื่องมือทดสอบในโครงการพัฒนาวิธีทดสอบยานยนต์อัตโนมัติ จากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคนและทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษาการวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ในการพัฒนาระบบการควบคุมความปลอดภัยในการขับขี่อัจฉริยะ หรือที่เรียกว่า Advanced Driver- Assistance System: ADAS ไปจนถึงระบบ Driverless Car และได้ทดลองจริงแล้ว ณ EECi จังหวัดระยอง

ด้าน ดร.ปาษาณ กุลวานิช นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการ ในฐานะหัวหน้าโครงการฯ กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของโครงการคือ การศึกษาและพัฒนาวิธีทดสอบสมรรถนะและความปลอดภัยของระบบที่สำคัญในยานยนต์อนาคต (Future Mobility) โดยคณะผู้วิจัยของ วศ. ได้พัฒนารถยนต์โดยสารขับขี่อัตโนมัติขึ้น ด้วยการออกแบบและติดตั้งระบบควบคุมอัตโนมัติ Drive by Wire สำหรับควบคุม Steering-brake-throttling ที่ได้มาตรฐาน ISO 26262, ASIL-D บนรถยนต์โดยสารไฟฟ้า และสร้างแผนที่ดิจิทัลแบบความละเอียดสูง (HD Map) เพื่อใช้นำทางการเคลื่อนที่ของรถยนต์ โดยอ้างอิงตำแหน่งรถ (Localization) ด้วยการรวมสัญญาณจากเซนเซอร์จาก 3D LiDAR แบบ 32 Channels, IMU/INS Sensor แบบความถี่สูงผนวกกับ GNSS ที่มีความแม่นยำสูงจากการรับค่าแก้ไขตำแหน่งจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ กรมที่ดิน หรือกรมแผนที่ทหาร โดยสัญญาณค่าแก้ไขความแม่นยำ GNSS จะส่งผ่านเครือข่าย 5G

ในส่วนของการนำทางแบบอัตโนมัตินั้นจะใช้ Autonomous Navigation Algorithm ที่เป็น Open source มาสร้าง AI ให้ช่วยจดจำ (Recognize) ลักษณะของรถยนต์ มอเตอร์ไซค์ คน รวมทั้งทำนายการเคลื่อนที่ของวัตถุ  โดย วศ. ได้ทดสอบการใช้งานจริงบนถนนในพื้นที่ EECi วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง  ซึ่งปัจจุบันสามารถทดสอบรถขับขี่แบบอัตโนมัติที่ความเร็วสูงสุด 45 กม./ชม. และในภายปี 2566 วศ. จะทำการทดสอบในสนามทดสอบยานยนต์เชื่อมต่อและขับขี่อัตโนมัติ (CAV proving ground) ของ วศ. ที่ EECi วังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง เพื่อการจัดทำเป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านยานยนต์แห่งอนาคตของประเทศ และส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์อัตโนมัติของประเทศให้ได้มาตรฐาน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่ระดับโลก

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH