ปั้น ดีพเทค สตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ ก.อุตฯ ดึงภาคเอกชนร่วมกิจการ ตั้งเป้าขยายการลงทุน 500 ล้านบาท

ปั้น ดีพเทค สตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ ก.อุตฯ ดึงภาคเอกชนร่วมกิจการ ตั้งเป้าขยายการลงทุน 500 ล้านบาท

อัปเดตล่าสุด 9 ก.พ. 2564
  • Share :

♦ โครงการ STARTUP CONNECT ปี 2564 มีผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีเชิงลึกผ่านการคัดเลือก 25 ราย จะเข้ารับการอบรมเข้มข้น เตรียมพร้อมสำหรับจับคู่ธุรกิจ คาดสร้างมูลค่าร่วมลงทุน 500 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 - กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหรรม (กสอ.) เร่งเครื่องเศรษฐกิจเสริมศักยภาพผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในด้านเทคโนโลยีเชิงลึก เพื่อให้มีทักษะในการประกอบการ การวิเคราะห์ความต้องการตลาด และการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเตรียมความพร้อมในการจับคู่ธุรกิจ กับกลุ่มนักลงทุน ภายใต้โครงการสตาร์ทอัพ คอนเน็คท์ เสริมโอกาสในการประกอบธุรกิจผ่านการร่วมลงทุน ผ่านการดำเนินงานหลัก 4 ขั้นตอน ประกอบด้วย การขยายเครือข่ายสตาร์ทอัพ การขยายเครือข่ายเงินทุน การขยายเครือข่ายตลาด และ การขยายเครือข่ายนานาชาติ โดยคาดว่าจะสามารถต่อยอดความสำเร็จขยายมูลค่าการร่วมลงทุนได้กว่า 500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่สามารถเชื่อมโยงเงินลงทุนได้กว่า 350 ล้านบาท

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งขับเคลื่อนอุตสาหกรรมของประเทศ ตามแนวนโยบายนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านการสนับสนุนผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ ที่มีความคิดสร้างสรรค์ในการดำเนินธุรกิจ จึงได้สั่งการ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดำเนินโครงการเชื่อมโยงตลาดสําหรับวิสาหกิจเริ่มต้น หรือ STARTUP CONNECT ขึ้นเพื่อสร้างโอกาสในการเข้าถึงตลาดและรับการสนับสนุนจากนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสตาร์ทอัพที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับเทคโนโลยีเชิงลึก ซึ่งปีที่ผ่านมาในระยะนำร่อง ได้คัดเลือกผู้ประกอบการสตาร์ทอัพจำนวน 6 ราย นำเสนอโมเดลธุรกิจต่อนักลงทุนและบริษัทร่วมลงทุน โดยบริษัท อีซีจี-รีเซิร์ช จำกัด หนึ่งในนักลงทุนมีความสนใจและร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัพกลุ่มนี้ รวมมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ซึ่งคาดว่ามูลค่า การร่วมลงทุนของนักลงทุนในปีนี้จะเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500 ล้านบาท ผ่านการดำเนินงาน 4 ขั้นตอนหลัก ประกอบด้วย

  • ขยายเครือข่ายสตาร์ทอัพ เพื่อเฟ้นหาผู้ประกอบการที่มีศักยภาพ ต่อยอดพัฒนาทักษะให้มีความพร้อมในการนำเสนอโมเดลธุรกิจกิจกับนักลงทุน
  • ขยายเครือข่ายเงินทุน โดยการสร้างเครือข่ายบริษัทเอกชนที่สนใจลงทุนกับผู้ประกอบการสตาร์ทอัพที่ได้รับการส่งเสริมจาก กสอ. เพื่อสร้างความมั่นใจในการร่วมดำเนินธุรกิจ
  • ขยายเครือข่ายตลาด ผ่านกระบวนการทดลองการทำการตลาดในประเทศ โดยมีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถบรรลุความต้องการของผู้บริโภคทั้งยังช่วยให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมั่นคง
  • ขยายเครือข่ายนานาชาติ เป็นขั้นตอนสุดท้ายเมื่อผู้ประกอบการมีความพร้อมเพียงพอในการต่อยอดไปยังตลาดนานาชาติ ที่มีมูลค่าตลาดที่สูงขึ้น เพื่อรองรับความต้องการจากต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการการันตีให้กับนักลงทุนถึงคุณภาพของผู้ประกอบการที่ได้รับการส่งเสริมจาก กสอ.

นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า การขยายผลการดำเนินงาน โครงการ STARTUP CONNECT ในปี 2564 มีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้นจำนวน 25 ราย จากผู้สมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 500 ราย โดยผู้ประกอบการที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับการอบรมเชิงปฏิบัติการอย่างเข้มข้น อาทิ การศึกษาความต้องการของลูกค้า เพื่อการพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการ (Customer Development) การประเมินศักยภาพตลาดกลยุทธ์และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและการขยายตลาด (Market Strategy) การประเมินศักยภาพเทคโนโลยีให้สอดคล้องกับแผนการตลาดและการเติบโตของธุรกิจ (Technology Roadmap) รวมทั้งการวิเคราะห์โมเดลธุรกิจ เพื่อการนำเสนออย่างมีประสิทธิภาพเพื่อให้ผู้ประกอบการมีความพร้อมเพียงพอที่จะสามารถเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ (Business Matching)กับหน่วยงานเครือข่ายและ Big Brother ของกระทรวงอุตสาหกรรม อาทิ สมาพันธ์ SMEs สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) อีกทั้งได้มีโอกาสนำเสนอแผนธุรกิจต่อนักลงทุน (Venture capital: VC) เพื่อให้สตาร์ทอัพเหล่านี้ได้มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจต่อไป

อย่างไรก็ดี นอกจากโอกาสการเติบโตทางธุรกิจของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมซึ่งเป็นเป้าหมายหลักแล้วของการดำเนินการในปีนี้แล้ว เชื่อว่าโครงการดังกล่าวจะสามารถสร้างมูลค่าการร่วมลงทุนของนักลงทุนเพิ่มสูงขึ้นกว่า 500 ล้านบาท ช่วยลดการนำเข้าเทคโนโลยีจากต่างประเทศและก่อให้เกิดการพัฒนาเป็นอุตสาหกรรมเทคโนโลยีเชิงลึกที่มีศักยภาพต่อไป นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมผู้ประกอบการและธุรกิจใหม่  กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2202 4564 www.dip.go.th