สสว. ขยายระยะเวลาโครงการ BDS “SME ปัง ตังได้คืน” จัดเงินอุดหนุนงบสูงสุด 200,000 บาท ต่อราย
สสว. ขยายระยะเวลาโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS “SME ปัง ตังได้คืน” วงเงินอุดหนุนงบสูงสุด 200,000 บาท ต่อราย พร้อมจัดกิจกรรมสัญจร เปิดโอกาส SME เข้าถึงโครงการมากขึ้น
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวภายหลังเป็นประธานภายในงานชี้แจงมาตรการการให้ความช่วยเหลือ อุดหนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS “SME ปัง ตังได้คืน” สัญจร เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2565 โดยมีหน่วยงานพันธมิตร และผู้ประกอบการในจังหวัดพิษณุโลก และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือ ร่วมรับฟัง ณ โรงแรม ท็อปแลนด์ จังหวัดพิษณุโลก ว่า ปัจจุบัน สสว. ได้ขยายระยะเวลาการยื่นข้อเสนอการพัฒนาของผู้ประกอบการบนระบบ BDS ไปจนถึงเดือนสิงหาคม 2566 ขยายคุณสมบัติผู้ประกอบการ และเพิ่มบริการให้หลากหลายมากขึ้น ซึ่งคาดว่า จะทำให้มีจำนวนผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการได้มากขึ้น รวมทั้งมีระยะเวลาการเลือกใช้บริการและมีระยะเวลาในการพัฒนาที่เหมาะสมกับธุรกิจของตนได้
- สสว. เร่งยกระดับ MSME ผ่านระบบผู้ให้บริการทางธุรกิจ BDS “SME ปัง! ตังได้คืน”
- สสว. อัดงบ 400 ล้าน จัดโครงการ BDS เอสเอ็มอีไทยรับเงินอุดหนุนพัฒนาธุรกิจ 50 – 80%
ผอ.สสว. กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ สสว. จะผลักดันมาตรการหลักที่สำคัญของ สสว. และได้รับการตอบรับที่ดีอย่างต่อเนื่อง เช่น มาตรการสนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ Thai SME GP และโครงการนำร่อง SME One ID ด้วยการพัฒนาระบบ Single Sign One เพื่ออำนวยความสะดวกให้ SME ให้สามารถเข้าถึงการส่งเสริมสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐได้สะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง
“สสว. ได้ออกมาตรการการช่วยเหลือ อุดหนุน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ BDS หรือ (Business Development Service) “SME ปัง ตังได้คืน” เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้รับโอกาสในการเข้าถึงการบริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจในรูปแบบใหม่ที่เอสเอ็มอีจะสามารถเลือกรับการบริการ หรือรับการพัฒนากับผู้ให้บริการทางธุรกิจ ในด้านที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจของตนผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS
โดย สสว. จะอุดหนุนค่าใช้จ่ายในการพัฒนาให้แก่ SME แบบร่วมจ่าย (co-payment) ในสัดส่วนร้อยละ 50 – 80 กำหนดวงเงินอุดหนุนสูงสุดรายละไม่เกิน 200,000 บาท ตามขนาดของธุรกิจ โดยจากการเปิดตัวโครงการไปเมื่อกลางปี 2565 สสว. ได้อุดหนุนงบประมาณเพื่อช่วยอุดหนุนผู้ประกอบการไปแล้วทั้งสิ้นกว่า 20 ล้านบาท ซึ่ง สสว. ยังมีงบประมาณที่พร้อมจะอุดหนุนให้แก่เอสเอ็มอี ที่ยื่นข้อเสนอการพัฒนายกระดับมาตรฐานของธุรกิจบนระบบ BDS อีกกว่า 400 ล้านบาท
“ดังนั้นจึงคิดว่า ควรจะจัดกิจกรรมโครงการ “SME ปัง ตังได้คืน” สัญจรไปในจังหวัดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ SME ที่ยังไม่ทราบข้อมูล หรือติดขัดในการขึ้นทะเบียนขอรับงบประมาณอุดหนุนการพัฒนา ได้เข้าถึงโครงการได้มากขึ้น” ผอ.สสว. กล่าว
นายวีระพงศ์ ย้ำอีกว่า สสว. ยังคงเดินหน้ามาตรการ“SME ปัง ตังได้คืน” ในเฟสที่ 2 โดยทราบว่า มีผู้ประกอบการต้องการเข้าร่วมมาตรการอีกจำนวนมาก ดังนั้น สสว. จึงขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการไปจนถึงกันยายน 2566 และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME สามารถยื่นข้อเสนอการพัฒนาได้จนถึง 31 สิงหาคม 2566 รวมทั้งจะเร่งสร้างเครือข่ายผู้ให้บริการธุรกิจ และเพิ่มบริการใหม่ ๆ ให้มากขึ้น เช่น บริการของโรงงานต้นแบบ หรือ Prototype Plant จากอุทยานวิทยาศาสตร์ทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพและโอกาสในการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ กลุ่ม Micro SME ที่จะสามารถเข้าไปใช้ในการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานในราคาต้นทุนการดำเนินงานไม่สูงและสามารถทำเป็นครั้ง ๆ ได้ หรือ กลุ่ม SE และ SE+ สามารถใช้บริการทดลองเพื่อผลิตสินค้าหรือใช้บริการเครื่องจักร หรือเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อทดสอบการผลิตสินค้าที่มีมูลค่าและมาตรฐานสูงได้
โดย สสว. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ให้เข้าถึงผู้ประกอบการมากขึ้น เช่น ให้ SME ที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจในปี 2564 สามารถขอรับบริการได้ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีรายได้ไม่เกิน 1,800,000 บาท สามารถขอรับบริการได้โดยแนบเอกสารรายรับ รายจ่าย และเอกสารการยืนยันสถานะการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ รวมไปถึงการเพิ่มผู้ประกอบการกลุ่ม ME ที่มีรายได้ไม่เกิน 500 ล้านบาท ให้สามารถรับบริการได้ และจะได้รับวงเงินช่วยเหลืออุดหนุนเท่ากับกลุ่ม SE+ คือ ได้รับการอุดหนุนงบประมาณ ร้อยละ 50 แต่ไม่เกิน 200,000 บาท
นอกจากนี้ สสว. ปรับปรุงการใช้งานในระบบ BDS ให้ง่ายมากขึ้น รวมทั้งปรับปรุงคู่มือ และคลิปสอนการใช้งานเพื่อสะดวกต่อการขอรับบริการของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวจะทำให้เข้าถึงความต้องการของผู้ประกอบการได้มากขึ้น” นายวีระพงศ์ กล่าวในที่สุด
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมมาตรการ “SME ปัง ตังได้คืน” ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ BDS โดยมาตรการ SME ปัง ตังได้คืน จะเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการสามารถยื่นข้อเสนอการพัฒนาได้จนถึงวันที่ 31 สิงหาคม 2566
ดูรายละเอียดได้ที่ https://bds.sme.go.th/ หรือ โทร. 1301 หรือโทร. 0-2298-3051 หรือที่ศูนย์ให้บริการ SME ครบวงจร หรือศูนย์ OSS สสว. ในทุกจังหวัด ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป โดยสำหรับครั้งต่อๆ ไป สสว. มีกำหนดการเดินทาง BDS สัญจร ในจังหวัดนครราชสีมา วันที่ 25 พ.ย. 2565, ปทุมธานี วันที่ 2 ธ.ค. 2565, เชียงใหม่ วันที่ 17 ธ.ค. 2565 และ ยะลา วันที่ 21 ธ.ค. 2565
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- สรุปยอดขายรถยนต์ ครึ่งปีแรก 2022
- ภาพรวมอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ของไทย
- สถานการณ์ชิปขาดตลาด 2022 จะสิ้นสุดเมื่อไหร่?
- 12 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงแห่งปี 2022
- 10 ตัวอย่างที่นำ 5G มาใช้งานได้อย่างน่าสนใจและประสบผลสำเร็จ
- เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
- เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
- นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
- FTA ไทย มีกี่ประเทศ พอหรือไม่ ทำไมต้องคิดเรื่อง CPTPP
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH