แผนส่งเสริม SME ปี 2564-2565
เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (บอร์ด สสว.) โดยมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุม มีมติดังนี้
1. เห็นชอบแผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. 2564-2565 ซึ่งเป็นแผนที่จัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับแผนแม่บทเฉพาะกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากสถานการณ์โรคไวรัส โคโรนา 2019 ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะสิ้นสุดลงเมื่อใด โดยสาระสำคัญของแผนการส่งเสริมฯ คือ เพื่อให้เอสเอ็มอีไทยสามารถประคองธุรกิจให้อยู่รอดได้ในสถานการณ์โควิด-19 โดยมีแนวทางดังนี้ 1.การบรรเทาปัญหาและฟื้นฟูธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 เช่น ส่งเสริมสภาพคล่องให้เอสเอ็มอี 2.การสร้างความพร้อมให้เอสเอ็มอีในการเข้าสู่การแข่งขันในบริบทใหม่ทางเศรษฐกิจ เช่น ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีและดิจิทัลมาใช้ในการบริหารจัดการองค์กรและธุรกิจ และ 3.การปรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจให้เกิดความสะดวกแก่เอสเอ็มอีในการประกอบธุรกิจ เช่นปรับแก้กฎหมายเพื่อลดอุปสรรคต่อการประกอบธุรกิจ
2. เห็นชอบแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ 2564-2565 และข้อเสนอโครงการและงบประมาณฯ ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานและบูรณาการร่วมกัน ซึ่งมีโครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการบริหาร สสว. เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2563 จำนวน 114 โครงการ งบประมาณ 5,334 ล้านบาท
3. เห็นชอบเปลี่ยนแปลงการจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินสนับสนุนงบประมาณโครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย จากเดิมเป็นไปตามมาตรา 34(3 ) จัดสรรงบประมาณให้เอสเอ็มอีโดยตรง เป็นมาตรา 34(2) จัดสรรเงินกองทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการผ่านหน่วยงานร่วมดำเนินการ (บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม หรือ บสย.) งบประมาณ 5,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ สสว. ยังได้รายงานให้บอร์ด สสว. ทราบถึงแนวทางการให้ความช่วยเหลือ SME ดังนี้
โครงการส่งเสริม SME ที่สำคัญในปีงบประมาณ 2564
1. ส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Early State/Start up) ดำเนินการพัฒนาทักษะและยกระดับความเป็นผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มต้นธุรกิจไม่เกิน 3.5 ปี เป้าหมาย 2,800 ราย โดยจะให้ที่ปรึกษาให้คำแนะนำด้านการเงิน การออกแบบและพัฒนาสินค้า ในเอสเอ็มอีภาคการเกษตร ภาคการผลิต ภาคการค้าและบริการ
2. พัฒนาวิสาหกิจรายย่อย (Micro SME) ให้ประกอบธุรกิจอย่างมืออาชีพ ส่งเสริมพัฒนาด้านมาตรฐานและตลาดออนไลน์ ให้เอสเอ็มอีรายย่อม รายย่อย วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ โดยเน้นเรื่องการเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ มีเป้าหมาย 250 ราย และการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายผ่านทางดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง มีเป้าหมาย 6,500 ราย
3. พัฒนาวิสาหกิจขนาดย่อม (Small Enterprises หรือ SE) ให้ก้าวสู่ธุรกิจสมัยใหม่ ดำเนินการ 3 แนวทางคือ (1.) ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต มีเป้าหมาย 3,000 ราย เน้นที่กลุ่ม New S-Curve และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรม (2.) ส่งเสริมกลุ่ม SE ที่ผ่านการพัฒนาจากโครงการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจระดับเติบโต จำนวน 100 กิจการ (3.) พัฒนาศักยภาพและช่องทางการตลาด สำหรับเอสเอ็มอี เป้าหมาย 1,000 ราย เช่น การจัดงาน SME FEST จำนวน 10 จังหวัด ทั่วประเทศ
4. ส่งเสริมความรู้ด้านการบริหารความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน และสนับสนุนเอสเอ็มอีที่ทำการค้าระหว่างประเทศ เป้าหมาย 2,000 ราย
- แนวทางการให้ความช่วยเหลือ SME ผ่านระบบผู้ให้บริการทางธุรกิจ (Business Development Service : BDS) หรือการจ่ายคนละครึ่งภาค SME
- ขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดทำร่างระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการให้ความช่วยเหลืออุดหนุนจากเงินกองทุนส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ผ่านระบบผู้ให้บริการสนับสนุนด้านการพัฒนาธุรกิจ พ.ศ........... และคาดว่าจะนำสามารถนำเสนอคณะกรรมการส่งเสริมส่งเสริม สสว. ได้ภายในเดือนมีนาคม 2564
- การส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย (Micro) สร้างตลาดนัดชุมชน เชื่อมโยงกับศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเมื่อต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
- การสนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ แบบกำหนดโจทย์ล่วงหน้า เพื่อให้เอสเอ็มอีรับทราบความต้องการ เตรียมความพร้อมและสามารถวางแผนการผลิตสินค้าได้ตามความต้องการของผู้ซื้อ คือ กองทัพอากาศและ บริษัท อุตสาหกรรมการบิน จำกัด ซึ่งในระยะแรก มุ่งเน้นการดำเนินการในอุตสาหกรรมอากาศยานและซ่อมบำรุง
อ่านต่อ:
- สินเชื่อ “SMEs One” รอบ 3 วงเงิน 2,000 ล้าน เปิดให้ยื่นขอกู้ได้ตั้งแต่ 15 ธ.ค.63 นี้
- สสว.เผย GDP SME ไตรมาส 2 หดตัว 17.2% คาดภาพรวมปี 63 หดตัว 9.5%