“ไทย-ยูเครน” ร่วมมือขยายความร่วมมือด้านการค้า-การลงทุนระหว่างกัน
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2560 นายอันดรีย์ เบชตา (H.E. Mr.Andrii Beshta) เอกอัครราชทูตแห่งยูเครนประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นางอภิรดี ตันตราภรณ์) โดยได้หารือลู่ทางการขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกัน
นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ไทยและยูเครนมีความสัมพันธ์ที่ดีและราบรื่นมาโดยตลอด โดยเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบ 25 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตของไทยและยูเครน จึงได้แสดงความยินดีเนื่องในโอกาสดังกล่าว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไทยและยูเครนจะคงความสัมพันธ์อันดีในทุกมิติ โดยเฉพาะในด้านการค้าและการลงทุน รวมทั้งหวังว่าไทยและยูเครนจะร่วมมือกันผลักดันให้มีการขยายความร่วมมือด้านการค้าและการลงทุนผ่านกรอบต่างๆ เช่น พหุภาคี ภูมิภาค และทวิภาคีต่อไป
นางอภิรดีกล่าวว่า ได้เชิญชวนให้นักลงทุนชาวยูเครนมาลงทุนในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) ซึ่งไทยมุ่งสร้างให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจที่ทันสมัยของอาเซียน และมีมาตรการดึงดูดการลงทุนที่รัฐบาลพร้อมให้สิทธิพิเศษส่งเสริมการลงทุนที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เน้นการวิจัยและพัฒนาที่ยูเครนมีความเชี่ยวชาญ อาทิ อุตสาหกรรมการบิน และอุตสาหกรรมอวกาศ พร้อมทั้งเน้นย้ำจุดแข็งของไทยที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ใจกลางภูมิภาคอาเซียน และเป็นประตูไปสู่ประเทศในอาเซียนและเอเชีย ในขณะที่ยูเครนก็เห็นว่าไทยเป็นคู่ค้ารายสำคัญและเห็นโอกาสที่จะขยายการค้าการลงทุนระหว่างกันมากขึ้น รวมทั้งเห็นพ้องที่ยูเครนจะใช้ไทยเป็นประตูการค้าไปสู่อาเซียน เช่นเดียวกับที่ไทยจะใช้ยูเครนเป็นประตูการค้าไปสู่ภูมิภาคยุโรป
นอกจากนี้ ไทยและยูเครนได้ลงนามในความตกลงทางการค้าระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งยูเครน ณ กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2560 ที่ผ่านมา โดยความตกลงฯนี้ จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ของสองประเทศ รวมทั้งเป็นการสร้างเวทีหารือทวิภาคีระหว่างกัน นั่นคือการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) เพื่อเป็นกลไกที่เป็นรูปธรรมในการพัฒนาความร่วมมือและขยายมูลค่าการค้า และสร้างเครือข่ายภาคธุรกิจระหว่างกันให้แน่นแฟ้นมากขึ้น ทั้งนี้ ยูเครนเสนอจะเป็นเจ้าภาพการประชุม JTC ครั้งที่ 1 ณ ประเทศยูเครน โดยทั้งสองฝ่ายจะตกลงกันในรายละเอียดต่อไป
ในปี 2559 การค้าระหว่างไทยและยูเครนมีมูลค่าการค้ารวม มูลค่า 665.20 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยยูเครนเป็นคู่ค้าอันดับ 48 ของไทยในตลาดโลก ไทยส่งออกสินค้าสำคัญ อาทิ ผลไม้กระป๋องและแปรรูป รถยนต์ และอัญมณีเครื่องประดับ ในขณะที่ไทยนำเข้าสินค้าสำคัญ อาทิ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช ยุทธปัจจัย สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
Source: ประชาชาติธุรกิจ
https://www.prachachat.net/politics/news-54052