สมอ. ขับเคลื่อนมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนเตรียมความพร้อมสู่ 4.0

อัปเดตล่าสุด 14 พ.ย. 2561
  • Share :

นายพสุ  โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การขับเคลื่อนและพัฒนาด้านการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนในยุคดิจิทัล” ว่า กระทรวงอุตสาหกรรม โดย สมอ. ได้ถ่ายโอนงานการรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนให้สำนักงานอุตสาหกรรมทั้ง 76 จังหวัด ดำเนินการเป็นหน่วยรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนระดับจังหวัด และ สมอ. ได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ชุมชน ตามแผนยกระดับการบริการภาครัฐ ระยะที่ 2 ตาม พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ. 2558 ปรับปรุงคู่มือประชาชน : การรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน โดยลดระยะเวลาในการดำเนินการจาก 73 วันทำการ เป็น 49 วันทำการ ซึ่งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาในปี 2561 พบว่า ยังมีปัญหาอุปสรรคในการปฏิบัติงานที่เกิดจากสาเหตุปัจจัยต่างๆ ที่ต้องนำมาทบทวน วิเคราะห์ และแก้ไขปัญหาร่วมกัน ประกอบกับ สมอ. มีแผนการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ปรับปรุงพัฒนากระบวนการทำงาน เพื่อปรับตัวเข้าสู่ยุครัฐบาลดิจิทัล ตามนโยบาย THAILAND 4.0 สมอ. จึงได้จัดการสัมมนาเพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากรที่ดำเนินงานด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด (สอจ.) ทั่วประเทศขึ้นในวันนี้ 

นายวันชัย พนมชัย รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การสัมมนาในวันนี้นอกจากจะมอบนโยบายให้ สอจ. เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติแล้ว ยังเป็นการชี้แจงและทำความเข้าใจร่วมกันเพื่อให้การดำเนินงานของ สมอ. เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างถูกต้อง ตลอดจนเสริมสร้างทักษะความรู้เชิงวิชาการและแนวความคิดพัฒนางานในยุคดิจิทัลให้ผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนให้บรรลุเป้าประสงค์ที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชนที่   ผ่านมา สมอ. กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน จำนวน 1,263 มาตรฐาน และมีผู้ผลิตชุมชนได้รับการรับรองแล้ว จำนวน 82,861 ราย

นอกจากนี้ สมอ. ยังคงมีโครงการพัฒนาผู้ผลิตชุมชนในด้านมาตรฐานต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ทันเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้บริโภคก็มีพฤติกรรมการซื้อที่เปลี่ยนไปเช่นกัน ผู้ผลิตชุมชนจึงต้องมีการปรับตัว และพัฒนาตนเองให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมอ. ก็เป็นอีกหนึ่งหน่วยงานที่พร้อมให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาผู้ผลิตชุมชนด้วยการมาตรฐาน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ชุมชนของไทยมีคุณภาพน่าเชื่อถือ สร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ ตลอดจนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันได้ในตลาดโลกอีกด้วย

ทั้งนี้ สมอ. ขอเชิญชวนให้ติดตามข่าวสารด้านการมาตรฐานจาก สมอ. ที่สะดวกและรวดเร็วที่ www.tisi.go.th และ www.facebook.com/tisiofficial ท่านจะไม่พลาดข่าวสารความเคลื่อนไหวที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค