มาตรการภาษี 2563 สนับสนุนการพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรม 4.0
สิทธิประโยชน์เพื่อผู้ประกอบการ! รัฐออกมาตรการภาษีสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 โดยนิติบุคคลที่บริจาคให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรอุตสาหกรรม 4.0 ที่จัดตั้งโดยสถานศึกษาของรัฐ โรงเรียนเอกชน สามารถนำมาหักภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 เท่า (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธันวาคม 2563
เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2563 ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ มาตรการภาษีสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
โดยที่สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลฯ ให้แก่นิติบุคคลที่บริจาคทรัพย์สินเพื่อพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ในปี พ.ศ. 2563 โดยมีรายละเอียดของมาตรการ ดังนี้
1. กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ในส่วนที่จ่ายไปเพื่อทรัพย์สินที่บริจาคให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่สถานศึกษาของรัฐหรือโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ได้เป็นจำนวน 3 เท่าของที่จ่ายจริง ดังนี้
1.1 ให้หักรายจ่าย 1 เท่าแรกตามที่จ่ายจริง
1.2 ให้หักรายจ่ายเท่าที่ 2 เพิ่มขึ้นจากเท่าที่ 1 ตามจำนวนที่จ่ายจริง
1.3 ให้หักรายจ่ายเท่าที่ 3 เพิ่มเติมจากเท่าที่ 2 แต่เมื่อรวมกันต้องไม่เกินเพดาน ดังนี้
1.3.1 ร้อยละ 60 เฉพาะส่วนของรายได้ที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท
1.3.2 ร้อยละ 9 เฉพาะส่วนของรายได้ที่เกิน 50 ล้านบาท แต่ไม่เกิน 200 ล้านบาท
1.3.3 ร้อยละ 6 เฉพาะส่วนของรายได้ที่เกิน 200 ล้านบาท
1.4 การหักรายจ่ายตาม 1.1 – 1.3 รวมกันต้องไม่เกินกำไรสุทธิในรอบระยะเวลาบัญชีที่ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีหรือไม่เกิน 100 ล้านบาท แล้วแต่อย่างใดจะน้อยกว่า
2. กำหนดให้ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอากรแสตมป์ ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาคทรัพย์สินให้แก่ศูนย์ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรสำหรับอุตสาหกรรม 4.0 ที่สถานศึกษาของรัฐหรือโรงเรียนเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ทั้งนี้ การกำหนดให้ยกเว้นภาษีตามข้อ 1. และข้อ 2. สำหรับการบริจาคทรัพย์สินระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
3. กำหนดให้ต้องไม่นำรายจ่ายที่ได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีตาม 1. ไปหักเป็นรายจ่ายตามมาตรา 65 ตรี (3) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
4. กำหนดให้ต้องไม่นำรายจ่ายที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตาม 1. ไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีตามพระราชกฤษฎีกาที่ออกตามความในประมวลรัษฎากรฉบับอื่น ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
5. กำหนดให้ต้องไม่นำรายจ่ายไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน กฎหมายว่าด้วยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศสำหรับอุตสาหกรรมเป้าหมาย หรือกฎหมายว่าด้วยเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน