บีโอไอหนุน SME เร่งใช้สิทธิประโยชน์เปลี่ยนเครื่องจักร อาศัยจังหวะเงินบาทแข็งเร่งลงทุน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI : The Board of Investment of Thailand) สนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เร่งใช้สิทธิประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับเปลี่ยนเครื่องจักร อาศัยโอกาสช่วงเงินบาทแข็งค่า ยกระดับเทคโนโลยี เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพื่อเอสเอ็มอีไทยเตรียมพร้อมรับมือการแข่งขันในอนาคต
นางสาวดวงใจ อัศวจินตจิตร์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า มาตรการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบัน นอกจากจะให้สิทธิประโยชน์แก่โครงการลงทุนใหม่หรือขยายการลงทุนแล้ว บีโอไอยังมีมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตสำหรับกิจการที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนแต่สิทธิประโยชน์หมดแล้ว หรือกิจการที่ดำเนินการอยู่แล้วโดยไม่ได้รับการส่งเสริมจากบีโอไอ และต้องการพัฒนาหรือปรับปรุงการผลิตให้ทันสมัยหรือมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งในภาวะที่เงินบาทแข็งค่าขึ้นนั้น บีโอไอมองว่าเป็นโอกาสดีสำหรับผู้ประกอบการในการลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อขยายกำลังการผลิต หรือเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการ เพื่อรับมือกับสภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในอนาคต นับเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าจากต้นทุนที่ต่ำลงเพราะเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น
สำหรับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ประกอบด้วย 5 มาตรการย่อย ได้แก่ มาตรการเพื่อการประหยัดพลังงาน มาตรการเพื่อการปรับเปลี่ยนเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต มาตรการเพื่อการวิจัยพัฒนาและออกแบบทางวิศวกรรม มาตรการเพื่อการยกระดับอุตสาหกรรมเกษตรไปสู่มาตรฐานสากล และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต โดยผู้ยื่นขอจะได้รับสิทธิประโยชน์ ยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักร ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล 3 ปี ในสัดส่วนร้อยละ 50 ของเงินลงทุนที่ใช้ในการปรับปรุง และหากเป็นผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ได้กำหนดวงเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500,000 บาท จากปกติที่กำหนด 1 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน)
ตัวอย่างการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต เช่น การติดตั้งระบบขนย้ายสินค้าอัตโนมัติภายในคลังสินค้า การติดตั้งหุ่นยนต์ทำความสะอาดเตาเผา การติดตั้งชุดป้อนวัตถุดิบอัตโนมัติ การติดตั้งเครื่องเอ็กซ์เรย์ที่สายการผลิต การติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์เพื่อผลิตไฟฟ้าใช้เองในสถานประกอบการ เป็นต้น
ทั้งนี้ คุณสมบัติของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่บีโอไอกำหนด คือต้องมีสินทรัพย์ถาวรสุทธิหรือขนาดลงทุนไม่เกิน 200 ล้านบาท (ไม่รวมค่าที่ดินและเงินทุนหมุนเวียน) ต้องมีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 51 ของทุนจดทะเบียน โดยผู้สนใจสามารถยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตได้จนถึงเดือนธันวาคม 2563
สนใจติดต่อ :
บีโอไอ (สำนักงานใหญ่)
555 วิภาวดี-รังสิต จตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทร. 0 2553 8111
E-mail: [email protected]
หรือ บีโอไอส่วนภูมิภาค
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.boi.go.th