นโยบายการดำเนินงานของ EEC ปี 2563 โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี, ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ สกพอ.

นโยบายการดำเนินงาน EEC ปี 63 มุ่งขยายการลงทุน สร้างรายได้ ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในพื้นที่

อัปเดตล่าสุด 8 ม.ค. 2563
  • Share :

♦ รองนายกรัฐมนตรี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มอบนโยบายการดำเนินงานของ EEC ปี 2563

♦ เน้นขยายการลงทุนสู่พื้นที่และชุมชน สร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่อีอีซี  

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 - สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) จัดแถลงนโยบายการการดำเนินงาน EEC ปี 2563 โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมและมอบนโยบาย โดยมี ดร.คณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) พร้อมผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและร่วมรับมอบนโยบาย ซึ่งมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้ 

1. พัฒนาเศรษฐกิจชุมชน 

1.1 สร้างรายได้ให้ถึงชุมชน 

  • ขยายท่องเที่ยวพื้นที่รอง และสร้างโครงการท่องเที่ยวระดับชุมชน เชื่อมโยงทรัพยากรในพื้นที่ สร้างรายได้ชุมชน ปีละ 1.2 แสนล้านบาทภายใน 3 ปี เช่น ท่องเที่ยวเชิงเกษตร บ้านตะพง จ.ระยอง ท่องเที่ยววัฒนธรรม ทางน้ำ จ.ฉะเชิงเทรา ท่องเที่ยวสุขภาพ นันทนาการ จ.ชลบุรี  
  • เชื่อม SME สู่ตลาดโลก ให้ SME ไทยเป็นผู้จัดหาสินค้าและบริการหรือ Suppliers ให้นักลงทุนเทคโนโลยีเป้าหมาย รวมทั้งจัดพื้นที่เฉพาะ ให้สิทธิประโยชน์ที่เหมาะสม พร้อมส่งเสริมไปตลาดโลกด้วย E-Commerce
  • ผลักดันโครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก (Eastern Fruit Corridor : EFC) ร่วมกับ อบจ.ระยอง ยกระดับเป็นโครงการหลัก ให้เกิดการลงทุนปี 2563 นี้ โดยเตรียมพื้นที่ 23 ไร่ รองรับที่ ต.มาบข่า จ.ระยอง

 

รองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มอบนโยบายการดำเนินงาน EEC ปี 2563

1.2 ลดผู้มีรายได้น้อยให้หมดไป ภายใน 3 ปี

ประชากรทั้งหมดในอีอีซีประมาณ 3.4 ล้านคน จะได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิตและมาตรฐานสิ่งแวดล้อม พร้อมสร้างงานให้คนรุ่นใหม่ วัยทำงาน โดยผู้มีรายได้น้อยประมาณ 3.5 แสนคนหรือประมาณ 14% จะเร่งการจัดฝึกอบรมพัฒนาอาชีพเฉพาะกลุ่ม จัดหางานในพื้นที่ร่วมกับจังหวัด อปท. เอกชน และชุมชน พร้อมจัดหางานให้กับผู้สูงอายุ โดยตั้งเป้าหมายให้ผู้มีรายได้น้อยกลุ่มนี้ ลดลงภายใน 3 ปี 

2. ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน

2.1 สาธารณสุขถ้วนหน้า ทุกคน ทุกชุมชน  ประชาชนทุกกลุ่มต้องเข้าถึงระบบประกันสุขภาพได้ โรงพยาบาลไม่แออัด ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษาได้สะดวก รวดเร็ว การวินิจฉัยโรคถูกต้อง แม่นยำ 

2.2 การศึกษา

  • พัฒนาทักษะบุคลากร ปรับเข้าสู่ Demand Driven เอกชนร่วมจ่าย : ในรูปแบบของ EEC Model คือ แบบเรียนฟรี มีงานทำ และ แบบจ่ายน้อยมีโอกาสทำงาน 
  • พัฒนาบุคลากรเร่งด่วน 20,000 คน จำนวน 120 หลักสูตร ให้ตรงความต้องการงานภายใน 1 ปี สร้างบัณฑิตอาสาเพื่อพัฒนาชุมชนเป้าหมาย 120 คน เปิดรับรุ่นแรก 30 คนเริ่มได้ทันที และผลิตอาชีวะมาตรฐานอินเตอร์ ฝึกอบรมครู พัฒนาสื่อการสอน  

2.3 กำกับผังเมือง และสิ่งแวดล้อมด้วยพลังสตรี ใช้เครือข่ายสตรีกรมพัฒนาชุมชน เป็นกระบอกเสียง ขยายความเข้าใจ รวบรวมปัญหา และข้อเสนอแนะ

2.4 พัฒนา 3 เกาะ : เกาะสีชัง เกาะล้าน และเกาะเสม็ด เป็นพื้นที่ตัวอย่าง สร้างประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม ลดความขัดแย้งและร่วมกันพัฒนาความเป็นอยู่ อย่างยั่งยืน 

3. ก้าวสู่มาตรฐาน BCG    

  • ดำเนินการตามแผนสิ่งแวดล้อม ก้าวสู่ Circular Economy 
  • พัฒนาต้นแบบกำจัดขยะครบวงจร ขยะเกิดใหม่ และสะสมในพื้นที่ต้องหมดไปใน 12 ปี 

4. บูรณาการการลงทุนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ : ผลักดันการบูรณาการงบประมาณในโครงการสำคัญอย่างเพียงพอ และการร่วมลงทุนกับเอกชนที่มีความพร้อม