ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย 2566 ธันวาคม

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ธ.ค. 66 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า

อัปเดตล่าสุด 11 ม.ค. 2567
  • Share :
  • 27,209 Reads   

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC Confidence Index) ประจำเดือนธันวาคม 2566 อยู่ที่ระดับ 54.7 เพิ่มขึ้น 0.4 จากเดือนก่อนหน้า หลังลดลงต่อเนื่องมา 2 เดือน

นายวชิร คูณทวีเทพ ผู้อำนวยการสถาบันยุทธศาสตร์การค้า มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจสมาชิกผู้ประกอบการ 369 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21-29 ธันวาคม 2566 พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยค่าดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย อยู่ที่ระดับ 54.7 เพิ่มขึ้น 0.4 จากเดือนพฤศจิกายน 2566 ซึ่งอยู่ที่ระดับ 54.3 ซึ่งได้รับปัจจัยด้านบวกจากการที่นักท่องเที่ยวต่างชาติในเพิ่มขึ้น ส่งผลให้เม็ดเงินหมุนเวียนมากขึ้น, มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้า, การส่งออกของไทยเดือน พ.ย. 66 ขยายตัว 4.9% เป็นต้น

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย

ปัจจัยด้านลบ

  • สถานการณ์ระหว่างอิสราเอลและฮามาสในฉนวนกาซายังดำเนินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจจะมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะยืดเยื้อที่อาจส่งผลให้ราคาน้ำมันและพลังงานโลกยังทรงตัวสูง
  • ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังชะลอตัวอยู่ ทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าหลักยังคงมีความไม่แน่นอนสูง อาทิ จีน สหรัฐ และยุโรป
  • ความเสียหายจากภัยธรรมชาติทางภาคใต้ในบางพื้นที่ที่มีฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วม จนสร้างความเสียหายให้กับประชาชน
  • สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่มากขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมกลางแจ้งในบางพื้นที่ และกระทบต่อสุขภาพของประชาชนที่สูดหายใจเข้าไป
  • ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นเล็กน้อยจากระดับ 35.466 ฿/$ ณ สิ้นเดือน พ.ย. 66 เป็น 34.976 ฿/$ ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 66 สะท้อนว่ามีการไหลออกสุทธิของเงินตราต่างประเทศ
  • ต้นทุนทางด้านการเงินของธุรกิจอยู่ในระดับที่สูง
  • ความกังวลในการดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล และการเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 จะล่าช้าออกจนกระทบต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ
  • ความกังวลต่อสถานการณ์เอลนีโญ และภัยแล้ง ที่จะส่งผลกระทบในระยะยาวและกระทบต่อความต้องการใช้น้ำในภาคการเกษตร และเพื่อการอุปโภค-บริโภค

ปัจจัยด้านบวก

  • การยกเว้นการยื่นวีซ่านักท่องเที่ยวให้กับบางประเทศซึ่งเป็นการช่วยลดค่าครองชีพในการดำเนินชีวิตและการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ดีขึ้น
  • นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวนมากขึ้นส่งผลให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในประเทศมากขึ้น
  • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและเยียวยาประชาชน โดยเฉพาะการปรับลดค่าไฟฟ้า การตรึงราคาน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซิน
  • การส่งออกของไทยเดือน พ.ย. 66 ขยายตัวร้อยละ 4.9 มูลค่าอยู่ที่ 23,479.71 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการนำเข้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 10.1 มีมูลค่าอยู่ที่ 25,879.14 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ขาดดุลการค้า 2,399.43 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 
  • ราคาน้ำมันขายปลีกแก๊สโซฮอล ออกเทน 91 (E10) และแก๊สโซฮอล ออกเทน 95 ในประเทศปรับตัวลดลงโดยปรับตัวลดลงประมาณ 0.8 บาทต่อลิตร ขณะที่ราคาน้ำมันดีเซลขายปลีกในประเทศยังคงอยู่ในระดับทรงตัว ณ สิ้นเดือน ต.ค. 66
  • SET Index เดือน ธ.ค. 66 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 35.67 จุด จาก 1,380.18 ณ สิ้นเดือนพ.ย. 66 เป็น 1,415.85 ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 66
  • ประชาชนมีการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นในช่วงเดือนธันวาคม แต่ยังคงมีการระวังการเลือกซื้อสินค้าเพิ่มขึ้น

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ และแนวทางการดำเนินการของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา

  • มาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการในเรื่องสภาพคล่องทางการเงินในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของธุรกิจ 
  • การจัดการบริหารน้ำให้เพียงพอต่อการเกษตรและการบริโภคของประชาชน
  • ดูแลค่าเงินบาทให้เอื้อต่อธุรกิจส่งออกนำเข้าอย่างเหมาะสม
  • ควรเร่งการเบิกจ่ายงบประมาณปี 67 เพื่อการดำเนินการตามนโยบายต่างๆ ของรัฐบาลรวมทั้งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและพื้นที่
  • มาตรการเพิ่มมูลค่าสินค้าของไทย เช่น การหาตลาดต่างประเทศมากขึ้น
  • เยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติของสถานการณ์น้ำท่วมในบางพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย
  • นโยบายและมาตรการผลักดันสินค้าไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างยั่งยืน

 

#หอการค้า #หอการค้าไทย #สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย #ภาคเอกชน #เศรษฐกิจไทย #เศรษฐกิจโลก #ภาคอุตสาหกรรม #ภาคการเกษตร #ภาคการท่องเที่ยว #ภาคการส่งออก #SET Index #GDP #จีดีพี #เศรษฐกิจไทย

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH