ภาวะเศรษฐกิจโลก ไตรมาสที่ 2/2564

ภาวะเศรษฐกิจโลก ไตรมาส 2/2564

อัปเดตล่าสุด 30 ส.ค. 2564
  • Share :

กองวิจัยเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) สรุปภาวะเศรษฐกิจโลกในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 เศรษฐกิจโลกภาวะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวต่อเนื่อง ตามอุปสงค์การค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกและนําเข้าที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่งส่งผลต่อเนื่องมายังภาคการผลิตที่หลายประเทศปรับตัวอยู่ในเกณฑ์ดี ด้านอัตราการวางงาน อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยนโยบายยังคงอยู่ในภาวะทรงตัว 

Advertisement

ธนาคารกลางสหรัฐฯ คงระดับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.00-0.25% เพื่อสนับสนุนการฟื้นฟูเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศ ก่อให้เกิดสภาพคล่องในระบบการเงินและผลักดันให้ภาคธุรกิจเติบโตได้ต่อเนื่อง

ด้านราคาน้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ฟื้นตัว ส่งผลให้มีความต้องการใช้น้ํามันเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของภาคเศรษฐกิจ โดยราคาน้ํามันดิบดูไบไตรมาส 2 ปี 2564 เฉลี่ยอยู่ที่ 67.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ปี 2563 เฉลี่ยอยู่ที่ 30.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบช่วงเดือนกรกฎาคมเฉลี่ยอยู่ที่ 72.6 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ภาวะเศรษฐกิจโลกยังคงมีประเด็นที่ต้องจับตามอง อาทิการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังคงยืดเยื้อและการกลายพันธุ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจโลกเติบโตได้ในกรอบที่จํากัด รวมถึง ต้นทุนด้านโลจิสติกส์ที่ปรับสูงขึ้นทั้งค่าระวางเรือขนส่งสินค้าที่เกิดจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และราคาน้ำมันที่มีทิศทางปรับตัวสูงขึ้น และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ทั้งนี้ ในภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังคงได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของปริมาณการค้าในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจหลัก ประกอบกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในอัตราเร่ง เป็นปัจจัยสําคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้การดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้าดําเนินต่อไปได้

โดยสรุป ภาวะเศรษฐกิจโลก ปริมาณการค้า และภาคการผลิต ในไตรมาสที่ 2 ปี 2564 ภาพรวมปรับตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากมาตรการฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจในแต่ละประเทศ รวมทั้งการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ที่มีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการดําเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจขับเคลื่อนต่อไปได้

 

อ่านย้อนหลัง:

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH