วิเคราะห์ส่งออกไทย ปี 2565: ฝ่าวิกฤติโควิดโอไมครอน? หอการค้าไทย

วิเคราะห์ส่งออกไทย ปี 2565: ฝ่าวิกฤติโควิดโอไมครอน?

อัปเดตล่าสุด 22 ธ.ค. 2564
  • Share :

ม.หอการค้าไทย เผยผลการศึกษา การวิเคราะห์ส่งออกไทย ปี 2565 ขยายตัวลดลงและมีปัจจัยเสี่ยงรุมเร้า โดยมีโควิดสายพันธุ์โอไมครอนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจโลก และการส่งออกของไทย หากระบาดรุนแรงอาจฉุดภาคส่งออกไทยขยายตัวเพียง 0.2%

Advertisement

เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2564 รองศาสตราจารย์ ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ ม.หอการค้าไทย ได้ทำการวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกไทยปี 2565 ภายใต้สถานการณ์ที่ทั่วโลกยังเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 โดยคาดการณ์ปี 2565 แบ่งเป็น 

- กรณีถ้า OMICRON ระบาดในโลกไม่รุนแรง ประเทศไทยจะมีมูลค่าการส่งออก 275,074 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (270,952 - 279,082 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือขยายตัว 4.8% (3.2% ถึง 6.3%)

- กรณีถ้า OMICRON ระบาดในโลกอย่างรุนแรง ประเทศไทยจะมีมูลค่าการส่งออก 262,991 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (259,050 – 266,822 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) หรือขยายตัว 0.2% (-1.3% ถึง 1.6%) ซึ่งมีปัจจัยบวก ปัจจัยลบและปัจจัยที่ต้องติดตามที่สำคัญดังนี้

ปัจจัยบวกต่อการส่งออกที่สำคัญคือ  

  • เศรษฐกิจโลกและประเทศคู่ค้ายังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง 
  • เงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่า
  • หลายประเทศมีการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ครอบคลุมประชากรมากขึ้น 
  • แนวโน้มความต้องการสินค้าสุขภาพและอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อที่มากขึ้น

ปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออกที่สำคัญคือ 

  • การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้นในหลายประเทศจากสายพันธุ์ OMICRON
  • ปัญหาเงินเฟ้อในประเทศต่างๆ ที่ลดทอนกำลังซื้อของผู้บริโภค
  • นโยบาย ZERO COVID ของจีน 
  • ขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์และค่าระวางสูง
  •  ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่สูงขึ้น
  •  ปัญหาการสะดุดของห่วงโซ่อุปทาน (SUPPLY CHAIN DISRUPTION

ประเด็นที่ต้องติดตาม

  • ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ที่มีผลบังคับใช้ 1 ม.ค. 2565
  • รถไฟลาว-จีน
  • นโยบายการเปิด/ปิดประเทศของประเทศคู่ค้าหรือมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดที่อาจเข้มงวดขึ้นของประเทศคู่ค้า
  • สงครามการค้า เทคโนโลยี ค่าเงินระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ
  • ภาษีคาร์บอนตลาดยุโรปในปี 2566

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH