ภาพรวมส่งออกไทยใช้สิทธิ FTA และ GSP ครึ่งปีแรก 2564 ขยายตัว 34%
กรมการค้าต่างประเทศ (คต.) เผยภาพรวมการส่งออกไทย ใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าภายใต้ FTA และ GSP ช่วงครึ่งปีแรก 2564 (เดือนมกราคม - มิถุนายน) มีมูลค่ารวม 40,244.26 ล้านเหรียญสหรัฐ ใช้สิทธิเพิ่มขึ้น 34.34%
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยการใช้สิทธิประโยชน์สำหรับการส่งออกภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) เดือนมิถุนายน 2564 มีมูลค่า 8,380.79 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.61 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2564 ที่มีมูลค่า 7,576.68 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ระหว่างเดือนมกราคม-มิถุนายน 2564 มีมูลค่า 40,244.26 ล้านเหรียญสหรัฐ มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 78.07 แบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) 38,329.42 ล้านเหรียญสหรัฐ และมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) 1,914.84 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งนี้ โดยภาพรวมการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ขยายตัวร้อยละ 34.34
- ส่งออกไทย 2564 เดือน มิ.ย. ขยายตัว 43% สูงสุดรอบ 11 ปี อีกครั้ง
- แนวโน้มส่งออกสินค้าไทยปี'64 สินค้าอาหาร-ทำงานที่บ้าน-ป้องกันโรค ติดเทรนด์ดาวรุ่งยาวถึงปีหน้า
- การค้าไทยกับคู่ FTA 5 เดือนแรก โต 19% ส่งออกสินค้าเกษตร และสินค้าอุตสาหกรรมสดใส
การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงทางการค้าเสรี (FTA) เดือนมิถุนายน 2564 มีมูลค่า 8,057.30 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.07 เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2564 ที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 7,189.66 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สำหรับการใช้สิทธิฯ ภายใต้ FTA 6 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่า 38,329.42 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 34.27 มีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 79.05 โดยตลาดที่ไทยส่งออกโดยมีมูลค่าการใช้สิทธิฯ ภายใต้ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) อาเซียน มูลค่า 13,439.89 ล้านเหรียญสหรัฐ (2) จีน มูลค่า 12,734.82 ล้านเหรียญสหรัฐ (3) ออสเตรเลีย มูลค่า 4,270.36 ล้านเหรียญสหรัฐ (4) ญี่ปุ่น มูลค่า 3,485.86 ล้านเหรียญสหรัฐ และ (5) อินเดีย มูลค่า 2,336.85 ล้านเหรียญสหรัฐ
สำหรับกรอบความตกลงการค้าเสรีที่มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์ฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) ไทย-เปรู ร้อยละ 100 (2) อาเซียน-จีน ร้อยละ 96.58 (3) ไทย-ชิลี ร้อยละ 86.80 (4) ไทย-ญี่ปุ่น ร้อยละ 80.04 และ (5) อาเซียน-เกาหลี (ร้อยละ 69.43)
การใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป หรือ GSP ทั้ง 4 ระบบ สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช และนอร์เวย์ เดือนมิถุนายน 2564 มีมูลค่า 323.50 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 16.41 เมื่อเทียบกับเดือนพฤษภาคม 2564 ที่มีมูลค่า 387.02 ล้านเหรียญสหรัฐ สำหรับการใช้สิทธิฯ ภายใต้ GSP ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 1,914.84 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 35.63 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 62.61
ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิ GSP มากที่สุดคือ สหรัฐอเมริกา มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 1,705.80 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 44.59 และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 65.15 อันดับสองคือ สวิตเซอร์แลนด์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 132.57 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 10.19 และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 40.01 อันดับสามคือ รัสเซียและเครือรัฐเอกราช มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 68.62 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 10.35 และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 71.73 และนอร์เวย์ มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ 7.85 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลงร้อยละ 0.84 และมีสัดส่วนการใช้สิทธิฯ ร้อยละ 59.97
สำหรับสินค้าส่งออกที่มีการใช้สิทธิ GSP สูง อาทิ ถุงมือยาง น้ำ/เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ส่วนประกอบของเครื่องปรับอากาศ อาหารปรุงแต่ง สับปะรดกระป๋อง ซอส เนื้อปลาแบบฟิลเล สด แช่เย็น แช่แข็ง ข้าวที่สีบ้างแล้วหรือสีทั้งหมด
สำหรับครึ่งแรกปี 2564 ไทยมีการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าเพื่อส่งออกภายใต้กรอบ FTA ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับทิศทางการส่งออก อาทิ อาเซียน (เพิ่มขึ้นร้อยละ 41.61) เปรู (เพิ่มขึ้นร้อยละ 126.19) ออสเตรเลีย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 45.37) ชิลี (เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.28) จีน (เพิ่มขึ้น 33.10) อินเดีย (เพิ่มขึ้นร้อยละ 48.55) เป็นต้น สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิฯ สูง ประกอบไปด้วยสินค้าหลากหลาย ทั้งสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร/เครื่องดื่ม และเกษตร อาทิ เครื่องปรับอากาศ (อาเซียน) รถยนต์ขนส่งบุคคลที่มีความจุกระบอกสูบเกิน 1,000-1,500 ลบ.ซม. (อาเซียน-ออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์) ผลไม้ เช่น ฝรั่ง มะม่วง มังคุด (อาเซียน-จีน) ลวดทองแดงอื่น (อาเซียน-อินเดีย) ปลาซาร์ดีนปรุงแต่ง (อาเซียน-ญี่ปุ่น) ยางธรรมชาติ (อาเซียน-เกาหลี) ปลาทูน่า ปลาสคิปแจ็ก และปลาโบนิโตชนิดซาร์ดา (กระป๋อง) (ไทย-ชิลี) เครื่องแต่งกายและของที่ใช้ประกอบกับเครื่องแต่งกาย (ไทย-เปรู) เป็นต้น
#การค้าไทย #ส่งออกไทย #FTA #เอฟทีเอ ##สิทธิ FTA #FTA ไทย #สิทธิเอฟทีเอ-จีเอสพี #สิทธิ GSP #แนวโน้มส่งออกไทย #ส่งออกสินค้าอุตสาหกรรม #ส่งออกสินค้าเกษตร #กรมการค้าต่างประเทศ #กระทรวงพาณิชย์
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
- บทเรียน 'หมิงตี้ เคมีคอล' สู่มาตรการป้องกันไฟไหม้โรงงาน ระยะสั้น-ยาว
- เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
- ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ปี 2564
- กลยุทธ์การ PR และ Communication ในยุคดิจิทัล
- นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
- อุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ไทย ปี 2564
- ปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขาดแคลน เจาะลึกตู้สินค้าหายไปไหน?
- อุตสาหกรรม 4.0 การผลิตแห่งอนาคต
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH