หอการค้า คาด GDP ปี'66 ขยายตัว 3.6% ได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว - การบริโภคภาคเอกชน

หอการค้า คาด GDP ปี'66 ขยายตัว 3.6% ได้แรงหนุนจากการท่องเที่ยว - การบริโภคภาคเอกชน

อัปเดตล่าสุด 15 ธ.ค. 2565
  • Share :
  • 1,762 Reads   

♦ คาด GDP ปี 2566 ขยายตัว 3.6% โดยได้แรงขับเคลื่อนจากการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่ GDP ปี 2565 จะอยู่ที่ 3.3%

♦ การลงทุนของภาคเอกชน จะขยายตัวที่ 3.2% โดยฟื้นตัวตามการบริโภคของภาคเอกชน

♦ ด้านการส่งออกสินค้าอาจขยายตัวเพียง 1.2% เนื่องจากถูกกดดันจากอุปสงค์รวมของโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัว

ในการแถลงข่าว "ประมาณการภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2566" เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย รศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์ฯ เปิดเผย ตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจในปี 2566 ขยายตัวที่ 3.6% โดยได้แรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว และการบริโภคภาคเอกชน ส่วนอัตราการขยายตัวของ GDP ปี 2565 นี้จะอยู่ที่ 3.3% โดยปัจจัยบวกการท่องเที่ยว การบริโภคภาคเอกชน และการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีตลอดช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี

เครื่องบ่งชี้เครื่องบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในปี 2566 ได้แก่ 

  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป คาดการณ์ GDP จะขยายตัวได้ที่ 3.6% (YoY)
  • การอุปโภคบริโภคของภาคเอกชน จะขยายตัวที่ 3.1% (YoY) โดยเริ่มฟื้นตัวจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และการกลับเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ก็ถูกกดดันมาจากปัญหาหนี้ครัวเรือน
  • การลงทุนของภาคเอกชน จะขยายตัวที่ 3.2% (YoY) โดยฟื้นตัวตามการบริโภคของภาคเอกชน
  • การอุปโภคบริโภคของรัฐบาล จะหดตัวที่ 0.3% (YoY) แต่การลงทุนของภาครัฐ จะขยายตัวที่ 2.4% (YoY) โดยแรงขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายภาครัฐในปี 66 จะลดน้อยลงจากปีก่อน เนื่องจากมาตรการเกี่ยวกับเงินโอนมีความจำเป็นน้อยลง และข้อจ้ากัดเรื่องเพดานหนี้สาธารณะ 
  • การส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์สหรัฐฯ จะขยายตัวที่ 1.2% (YoY) เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์รวมของโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวจากการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อ
  • อัตราเงินเฟ้อทั่วไป จะขยายตัวที่ 3.0% (YoY) จากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร มีผลทำให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปทรงตัวอยู่ในระดับสูง

ปัจจัยบวกต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2565-2566

  • การแพร่ระบาดปรับตัวดีขึ้นและการปรับโรคโควิด-19 ให้เป็นโรคประจำถิ่น
  • การกลับมาของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว
  • การใช้จ่ายของภาคเอกชนมีสัญญาณฟื้นตัวอย่างชัดเจน
  • รายได้ของเกษตรกรยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง
  • ความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้ง/ฝนทิ้งช่วงในปี 2566 มีแนวโน้มลดลง
  • การเลือกตั้งทั่วไปปี 2566

ปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจไทยในปี 2565-2566

  • สงครามรัสเซีย-ยูเครนทำให้ราคาพลังงาน/สินค้าโภคภัณฑ์และอัตราเงินเฟ้อพุ่งขึ้น
  • ธนาคารกลางถูกกดดันให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
  • เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะถดถอย
  • ความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน
  • ความผันผวนของตลาดเงินและตลาดทุนโลก
  • ความไม่แน่นอนของสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีน

 

อ่านต่อ : Citibank ฉายทิศทางเศรษฐกิจเอเชียปี'66 สดใส มอง GDP ไทยโตแตะ 4.3% เงินเฟ้ออยู่ที่ 2.5%

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH