ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงพาณิชย์

อาเซียน-ญี่ปุ่น คลอดแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19

อัปเดตล่าสุด 7 ส.ค. 2563
  • Share :

‘จุรินทร์’ มอบผู้ช่วย รมต.พาณิชย์ ร่วมประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ผ่านระบบทางไกล เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ร่วมรับรองแผนปฏิบัติการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากโควิด-19 หวังสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และบรรเทาผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเดินหน้าสู่ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) ฉบับใหม่ที่จะมีผล 1 สิงหาคม 2563 นี้ 

ดร.สรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจํากระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ให้เข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ว่าด้วยการตอบสนองต่อสถานการณ์โควิด-19 ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยที่ประชุมได้หารือและแลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ที่มีต่อเศรษฐกิจในภูมิภาค รวมถึงการเป็นห่วงโซ่การผลิตที่สําคัญของภูมิภาคและของโลก ที่ประชุมจึงร่วมกันรับรองแผนปฏิบัติการด้านความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจในภูมิภาคจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเป็นรูปธรรม

โดยแผนดังกล่าวมุ่งเน้นเป้าหมายสําคัญ 3 ประการ คือ 1. รักษาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดระหว่างกัน 2. บรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 และ 3. เสริมสร้างความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ กว่า 50 โครงการ เช่น มุ่งให้มีการลงนามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ภายในปีนี้ เร่งส่งเสริมความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และเคมีภัณฑ์ ยกระดับทักษะฝีมือแรงงานในภาคอุตสาหกรรมให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี พัฒนาการค้าดิจิทัลระดับภูมิภาค ผลักดันการใช้เทคโนโลยีในการเสริมสร้างประสิทธิภาพและศักยภาพของธุรกิจ MSMEs เป็นต้น

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายร่วมแสดงความยินดีที่พิธีสารฉบับที่หนึ่งเพื่อแก้ไขความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP) จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2563 เพราะจะเป็นการยกระดับความตกลง AJCEP ให้ครอบคลุมครบทั้งการค้าสินค้าและบริการ การเคลื่อนย้ายบุคคลธรรมดา และการลงทุน อันจะเสริมสร้างความเชื่อมั่น แก่นักธุรกิจและนักลงทุนญี่ปุ่นในภูมิภาคอาเซียน

“มั่นใจว่า การดําเนินการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว ที่ผ่านการรับรองของรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนและญี่ปุ่นในครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจของทั้งสองฝ่าย และจะช่วยบรรเทาผลกระทบและฟื้นฟูเศรษฐกิจ รวมทั้งยกระดับความเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างแน่นอน” ดร.สรรเสริญ เสริม

ทั้งนี้ ในปี 2562 ญี่ปุ่นเป็นคู่ค้าอันดับ 4 ของอาเซียน มีมูลค่าการค้ารวม 225,915 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยอาเซียนส่งออกไปญี่ปุ่นมูลค่า 109,835 ล้านเหรียญสหรัฐ และนําเข้าจากญี่ปุ่นมูลค่า 116,080 ล้านเหรียญสหรัฐ และญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนอันดับ 2 ของอาเซียน มีการลงทุนโดยตรงจากญี่ปุ่นไปอาเซียน มูลค่า 20,356 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

อ่านต่อ: