เผยตัวเลขขอส่งเสริมการลงทุน ปี'63 กระจุกตัวใน EEC มากถึง 43%
♦ ภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ปี 2563 รวมทั้งสิ้น 453 โครงการ มูลค่าลงทุน 2.08 แสนล้านบาท
♦ 'ญี่ปุ่น' ครองแชมป์ลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศสูงสุดในอีอีซี มูลค่าลงทุน 5 หมื่นล้านบาท
จากการประชุมคณะอนุกรรมการบริหารการพัฒนาเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กบอ.) ครั้งที่ 1/2564 เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 โดยมี นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน ณ ห้องบัญชาการยุทธศาสตร์ ชั้น 25 กระทรวงพลังงาน ได้เปิดเผยภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ดังนี้
ภาพรวมการขอรับส่งเสริมการลงทุนใน EEC ปี 2563
ภาพรวมการขอรับส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ในรอบปี 2563 (ม.ค.- ธ.ค 2563) ที่ผ่านมา มีทั้งสิ้น 453 โครงการ มูลค่าลงทุนสูงถึง 2.08 แสนล้านบาท คิดเป็น 43% ของมูลค่าการขอรับส่งเสริมการลงทุนทั้งประเทศ เป็นการลงทุนจากต่างประเทศรวม 1.15 แสนล้านบาท คิดเป็น 55% ของมูลค่าขอรับส่งเสริมทั้งหมดในอีอีซี
ด้านความคืบหน้า โครงการที่ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนในอีอีซี ในปี 2563 จาก 453 โครงการ ได้อนุมัติคำขอแล้ว 292 โครงการ คิดเป็น 64% ออกบัตรส่งเสริมแล้ว 172 โครงการ คิดเป็น 59% และได้เริ่มโครงการแล้ว 79 โครงการ คิดเป็น 46%
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ใน EEC
ตลอดปี 2563 การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) ในพื้นที่อีอีซี มีมูลค่ารวม 1.15 แสนล้านบาท คิดเป็น 55% ของมูลค่าขอรับส่งเสริมทั้งหมดในอีอีซี โดยนักลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนในอีอีซีสูงสุด ด้วยมูลค่าการลงทุน 50,455 ล้านบาท คิดเป็น 44% และอันดับสองเป็นนักลงทุนจากจีน มูลค่าการลงทุน 21,831 ล้านบาท