กกร. คง GDP ปี'66 ขยายตัว 3 - 3.5% วอนรัฐลดค่าไฟ งวด พ.ค - ส.ค.
กกร. คงตัวเลขคาดการณ์ GDP ปี 2566 เพิ่มขึ้นอยู่ในกรอบ 3.0 - 3.5% ส่งออกขยายตัว 1 - 2% ห่วงต้นทุนผู้ผลิตยังอยู่ระดับสูง วอนรัฐช่วยลดค่าไฟ งวดที่ 2 เดือน พ.ค - ส.ค. 66
การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 โดยมี นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เป็นประธาน กกร. นายภูมินทร์ หะรินสุต รองประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง สมาคมธนาคารไทย เป็นประธานร่วม เปิดเผยภายหลังการประชุม ณ ห้อง Ballroom ชั้น G โรงแรมอนันตรา สยาม ราชดำริ กรุงเทพฯ ว่า การผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดเริ่มส่งผลให้เศรษฐกิจจีนมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ชัดเจน โดยดัชนีทางเศรษฐกิจของจีน ทั้งในฝั่งภาคการผลิตและภาคบริการกลับมาขยายตัวได้ในเดือนมกราคม โดยเฉพาะในภาคบริการที่สะท้อนการเดินทางท่องเที่ยวของชาวจีนในช่วงเทศกาลตรุษจีน สอดคล้องกับการประเมินล่าสุดของ IMF ที่คาดว่าเศรษฐกิจจีนจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ 5.2% ในปี 2566 สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 4.4% ขณะที่เศรษฐกิจโลกปี 2566 มีแนวโน้มเติบโต 2.9% สูงกว่าประมาณการเดิมที่ 2.7% ทั้งนี้ คาดว่าปัจจัยดังกล่าวจะส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวของไทย ประกอบกับกิจกรรมการผลิตที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจะช่วยพยุงภาคการส่งออกสินค้าในระยะข้างหน้า ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง
ในด้านของค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างรวดเร็วและมากกว่าสกุลภูมิภาค แม้ว่าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นมีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุน อาทิ ดุลบัญชีเดินสะพัดที่กลับมาเกินดุลในไตรมาสที่ 4/2565 มุมมองของนักลงทุนที่เป็นบวกต่อการเปิดประเทศของจีน และค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าหลังจากตลาดคลายความกังวลต่อการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด แต่เงินบาทแข็งค่าราว 15% ตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา และแข็งค่าถึง 5% ในช่วงเดือนมกราคมซึ่งมากและเร็วกว่าสกุลเงินอื่นในภูมิภาคอย่างชัดเจน เป็นปัจจัยกดดันความสามารถในการแข่งขันของสินค้าส่งออกของไทยในภาวะที่ความต้องการสินค้าชะลอตัว
- ส.อ.ท. คาด 17 อุตสาหกรรมแนวโน้มเติบโตในปี 2566
- สมาคมธนาคารไทย หนุน "มาตรการสินเชื่อเพื่อการปรับตัว" เสริมศักยภาพ SMEs รับธุรกิจโลกยุคใหม่
- ส่งออกไทย 2565 ทำมูลค่าสูงสุด 2.8 แสนล้านเหรียญ โต 5.5% จากปีก่อนหน้า
ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยได้รับแรงสนับสนุนจากภาคการท่องเที่ยวแต่มีความเสี่ยงจากภาคการส่งออก โดยจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปีนี้อาจมากกว่า 22.5 ล้านคนที่ประเมินไว้เดิม จากนักท่องเที่ยวกลุ่มยุโรป และสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีกว่าคาด ขณะที่นักท่องเที่ยวจีนจะปรับตัวดีขึ้นอย่างชัดเจนในไตรมาสที่ 2 อย่างไรตาม การส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวในช่วงต้นปี และต้องติดตามปัจจัยที่มีผลกระทบอย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นการแข็งค่าของค่าเงินบาท การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งแม้ว่าจีนจะฟื้นตัวได้เร็วแต่อาจไม่เพียงพอที่จะทดแทนความต้องการสินค้าจากประเทศหลักอื่น ๆ
%YoY |
ปี 2565 (ณ ธ.ค. 65) |
ปี 2566 (ณ ม.ค. 66) |
ปี 2566 (ณ ก.พ. 66) |
GDP | 3.2 | 3.0 ถึง 3.5 | 3.0 ถึง 3.5 |
ส่งออก | 5.5* | 1.0 ถึง 2.0 | 1.0 ถึง 2.0 |
เงินเฟ้อ | 6.1* | 2.7 ถึง 3.2 | 2.7 ถึง 3.2 |
หมายเหตุ: * ตัวเลขจริง
โดยที่ประชุมยังได้แสดงความห่วงใยในเรื่องต้นทุนการผลิตที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะราคาค่าไฟฟ้า รวมถึงแนวโน้มการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่องท่ามกลางค่าเงินบาทที่แข็งค่า อาจส่งผลกระทบต่อขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการ รวมถึงการส่งผ่านต้นทุนไปยังผู้บริโภคผ่านราคาสินค้าและบริการที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ปัญหาขาดแคลนแรงงานในภาคบริการ ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ภาครัฐต้องมีมาตรการสนับสนุนเพื่อเตรียมความพร้อมด้านแรงงานให้เพียงพอรองรับการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังจากจีนเปิดประเทศ
สืบเนื่องจากการหารือร่วมกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน พร้อมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในด้านพลังงาน เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566 เพื่อหาแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหาค่าไฟฟ้า ซึ่งที่ผ่านมาภาคเอกชนได้ช่วยลดการใช้ก๊าซธรรมชาติ โดยใช้พลังงานเชื้อเพลิงอื่นมาทดแทนไปส่วนหนึ่งแล้ว เพื่อทำให้การคำณวนค่า Ft ในรอบถัดไปมีอัตราที่ลดลง โดยที่ประชุมมีความคิดเห็นดังนี้
1. กกร.เสนอให้ปรับลดค่า Ft งวดที่ 2 เดือน พ.ค – สค. 66 เนื่องจากมีปัจจัยหนุนในด้านการเพิ่มขึ้นของก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทย และราคาก๊าซธรรมชาติจากต่างประเทศที่มีแนวโน้มลดลง
2. เห็นชอบในแนวทางการจัดตั้ง กรอ. พลังงาน และให้สำนักงาน กกร. จัดทำโครงสร้างรูปแบบการทำงาน เสนอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบเพื่อพิจารณาจัดตั้งต่อไป และระหว่างการจัดตั้ง กรอ. พลังงาน ขอให้มีคณะทำงาน Task Force ด้านพลังงาน (เฉพาะกิจ) เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาและสร้างความเข้าใจในด้านพลังงาน รวมถึงหารือมาตรการระยะสั้น-กลาง-ยาว โดยมีตัวแทน 3 ฝ่าย ได้แก่ สำนักนโยบายและแผนพลังงาน กระทรวงพลังงาน (สนพ.) สำนักกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.)
#เศรษฐกิจไทย #GDP Thailand #การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน #กกร. #หอการค้าไทย #สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย #สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #สมาคมธนาคารไทย
บทความยอดนิยม 10 อันดับ
- สรุปยอดขายรถยนต์ ครึ่งปีแรก 2022
- ภาพรวมอุตสาหกรรมโซลาร์เซลล์ของไทย
- สถานการณ์ชิปขาดตลาด 2022 จะสิ้นสุดเมื่อไหร่?
- 12 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงแห่งปี 2022
- 10 ตัวอย่างที่นำ 5G มาใช้งานได้อย่างน่าสนใจและประสบผลสำเร็จ
- เทคโนโลยีแห่ง G สู่ 5G เครือข่ายไร้สาย
- แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนคืออะไร ตลาดจะก้าวไปในทางไหนในปี 2030?
- เทคโนโลยีสำหรับโลจิสติกส์ ทางเลือกสู่ทางรอด ปรับก่อนโดนเบียด
- นิยามใหม่ SME ใช้ “รายได้” เป็นตัวกำหนด
- FTA ไทย มีกี่ประเทศ พอหรือไม่ ทำไมต้องคิดเรื่อง CPTPP
อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th
Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH