แนะธุรกิจปรับกลยุทธ์ขยายตลาดสู่ยุโรป

อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 2561
  • Share :
  • 461 Reads   

น.ส.คิตตี้ ฟอค กรรมการผู้จัดการ บริษัทวิจัย IDC ประเทศจีน เปิดเผยว่า ผลจากสงครามทางการค้าที่สหรัฐเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศจีน และรัฐบาลจีนได้ประกาศตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐเช่นกันนั้น ถือเป็นสงครามการค้าที่ส่งผลเสียต่อทั้ง 2 ประเทศ โดย IDC ประเทศจีน วิเคราะห์เจาะลึกคาดว่า GDP (ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ) ของจีนในปีนี้จะเติบโตลดลง 0.2% จากที่คาดว่าจะโต 6.7% เป็น 6.5% และส่งผลกระทบต่อ GDP ประมาณ 25 พันล้านเหรียญสหรัฐ เฉพาะในตลาดไอซีทีของจีนจะโตลดลง 0.6% จากที่คาดว่าจะโต 9.0% เป็น 8.4% ส่วนผลกระทบต่อมูลค่าตลาดประมาณ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ 

ขณะที่สงครามการค้านี้จะกระทบกับเกือบทุกอุตสาหกรรม แต่อุตสาหกรรมการผลิตจะได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่เกี่ยวข้องกับนโยบายอุตสาหกรรม "Made in China 2025" และภาคบริการโดยเฉพาะด้านเทคโนโลยี  

โดย IDC ได้ให้คำแนะนำสำหรับผู้ขายและผู้ใช้ไอซีที ซึ่งรวมถึงภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ ดังนี้

1.ติดตามความคืบหน้าล่าสุดของสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ทั้งรายการสินค้าที่จะถูกเก็บภาษีและการตอบโต้ที่จะเกิดขึ้นเพื่อประเมินผลกระทบ

2.ปรับกลยุทธ์การส่งออกและการทำตลาดระดับโลกให้เหมาะสม เพิ่มการขยายตลาดในสหภาพยุโรปและประเทศต่าง ๆ

3.ควบคุมค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยเฉพาะบริษัทที่พึ่งพาการนำเข้าส่วนประกอบหลักจากสหรัฐและจีน 4.ลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีหลักและการทรานส์ฟอร์มสู่ดิจิทัล ซึ่งจะมีส่วนช่วยรักษาอัตราการเติบโต 

"ผู้ค้าไอซีทีและผู้ใช้ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมควรใช้โอกาสนี้เป็นความท้าทายในการสร้างกลยุทธ์ที่เหมาะสมในการตอบสนองและการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปรับใช้เทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ"