ยอดจัดตั้งโรงงาน ม.ค. –ก.พ. 61 สูง 7.51% อานิสงส์จาก อุตฯยานยนต์ลงทุนเพิ่มเครื่องจักร

อัปเดตล่าสุด 15 มี.ค. 2561
  • Share :
  • 453 Reads   

เจาะประเด็น “การลงทุนภาคเอกชนพุ่งฉลุย 2 เดือน มียอดจัดตั้งโรงงานสูงกว่า 7.51%” โดยรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) คุณเกรียงไกร เธียรนุกุล เผยถึงสถานการณ์การลงทุนของภาคเอกชนช่วง 2 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค. –ก.พ. 61) พบว่าขยายตัวดีขึ้นโดยเฉพาะอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ขนาดกลางและขนาดย่อมบางกลุ่ม เพราะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกทำให้การส่งออกโตต่อเนื่อง โดยเดือนม.ค. 61 ส่งออกขยายตัว 11% กุมภาพันธ์ขยายตัวกว่า 8 %คาดว่าในเดือนมี.ค. จะขยายตัวใกล้เคียงกัน

Q: ไม่ทราบว่าเป็นอุตสาหกรรมใดที่ได้รับการลุงทุนสูงสุดในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา

A: “อุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นอุตสาหรรมเพื่อการส่งออกครับ เราจะเห็นจากตัวเลขการส่งออกในปีที่ผ่านมาเติบโตประมาณ 9% และในช่วงต้นปีนี้ เดือนมกราคมมีการเติบโตสูงขึ้นมากเลยครับ เป็นสิบกว่าเปอร์เซ็นต์ แล้วเดือนที่แล้วเรายังเติบโตอีก ดังนั้น เราเติบโตเฉลี่ยสองเดือนประมาณ 9%

อุตสาหกรรมที่มีการเติบโตได้ดีในช่วงที่ผ่านมานั้นเกี่ยวเนื่องกับการส่งออกเป็นหลัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งขณะนี้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น เราจึงจำเป็นต้องขยายการลงทุนที่มีการลงทุนเครื่องจักรจำนวนมาก เพราะฉะนั้นอุตสาหกรรมประเภทยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ที่เป็นซัพพลายเชนพวกนี้ก็ขยายกำลังการผลิตตามกัน นอกจากนี้ อุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ หรืออุตสาหกรรมอาหารก็มีการขยายตัวเพิ่มด้วยครับ

ผมคิดว่าเป็นสัญญาณที่ดีนะครับที่ภาคเอกชนมีการลงทุนเพิ่มเติมจาก 2 – 3 ปีผ่านมาที่ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีการลงทุนกันเท่าไร จะเห็นได้จากยอดการนำเข้าพวกเครื่องจักรที่ลดลง แต่ตอนนี้ตัวเลขก็เริ่มเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว และถ้าตัวเลขการส่งออกยังดีอย่างนี้ก็จะมีการส่งออกและมีการเพิ่มเครื่องจักรมากขึ้นครับ”

Q: สามารถสรุปได้ไหมว่าเป็นอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ขยายตัวมากที่สุด

A: “ใช่ครับ จะเป็นภาคอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ครับที่เป็นอุตสาหกรรมที่เติบโตมากที่สุด”

Q: ถ้าลำดับแรกคือยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์แล้วลำดับถัด ๆ มาล่ะ

A: “ก็จะเป็นอุตสาหกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์ครับ ลำดับที่ 3 จะเป็นเรื่องอุตสาหกรรมอาหารครับ”

จากการเติบโตที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดการคาดการณ์ว่ายอดการลงทุนเครื่องจักรในไทยจะต้องเติบโตขึ้นอย่างแน่นอน โดยมีความเป็นไปได้ที่มีการขยายตัวในปริมาณที่ใกล้เคียงกัน และในอนาคตอาจจะมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้นมากกว่านภาคยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงอุตสาหกรรมอาหารก็ได้