ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ก.ย. 63 ขยับขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน

ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ก.ย. 63 ขยับขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน

อัปเดตล่าสุด 14 ต.ค. 2563
  • Share :

ผศ.ดร.ธนวรรธน์  พลวิชัย  อธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ประจำเดือนกันยายน 2563 (TCC CONFIDENCE INDEX) อยู่ที่ 32.5 เพิ่มขึ้น 0.2 จากเดือนที่แล้ว ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4

จากการสำรวจสมาชิกผู้ประกอบการ 365 รายทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 23-30 กันยายน 2563 พบว่า ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการยังอยู่ในทิศทางดีขึ้น ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ผลจากมาตรการดูแลและเยียวยาโดยภาครัฐ อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยลบอยู่พอสมควร ทั้งความกังวลในการระบาดระลอกที่ 2 และสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศเป็นปัจจัยสำคัญ กอปรกับหลายตัวเลขในเดือน ก.ย. 63 พบว่า ภาวะการส่งออกและนำเข้าลดลง SET Index ปิดตลาดต่ำกว่า 1,300 จุด และค่าเงินบาทอ่อนค่าลง

ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อดัชนีความเชื่อมั่นของหอการค้าไทย

ปัจจัยด้านลบ

  • ความวิตกกังวลต่อการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลกระทบทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชน และการดำเนินธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
  • ความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางด้านการเมือง ตลอดจนการชุมนุมทางการเมืองของกลุ่มเยาวชน และประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ที่อาจส่งผลให้ประเทศไทยจะต้องเผชิญกับปัญหาความขัดแข้งทางการเมืองเหมือนอดีตที่ผ่านมา
  • รัฐบาลขยายระยะเวลาการใช้ พ.ร.ก. บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อบริหารจัดการและควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 
  • การส่งออกของไทยในเดือน ส.ค. 63 ลดลงร้อยละ 7.94 มูลค่าอยู่ที่ 20,212.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่การนำเข้าลดลงร้อยละ 19.68 มีมูลค่าอยู่ที่ 15,862.98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
  • SET Index เดือน ก.ย. 63 ปรับตัวลดลง 73.62 จุด จาก 1,310.66 ณ สิ้นเดือน ส.ค. 63  เป็น 1,237.40 ณ สิ้นเดือน ก.ย. 63
  • ค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าเล็กน้อยจากระดับ 31.217 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือน ส.ค. 63 เป็น 31.367 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือน ก.ย. 63 ซึ่งสะท้อนว่ามีเงินทุนจากต่างประเทศสุทธิไหลออกจากประเทศไทย และผลจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19

ปัจจัยด้านบวก

  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ปรับประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 ใหม่ โดยคาดว่าเศรษฐกิจทั้งปีจะติดลบ 7.8% จากเดิมคาดว่าจะติดลบ 8.1% มาจากแนวโน้มของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะฟื้นตัวช้า
  • รัฐบาลดำเนินมาตรการดูแลและเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์  COVID-19 เพื่อช่วยเหลือประชาชนทั่วไป และผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง
  • ราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศยังทรงตัวจากเดือนที่ผ่านมา โดยแก๊สโซฮอลออกเทน 91 (E10) และแก๊สโซฮอลออกเทน 95 (E10) อยู่ที่ระดับ 21.98 และ 22.25 บาทต่อลิตร ณ สิ้นเดือน ก.ย. 63 ตามลำดับ

ข้อเสนอแนะต่อภาครัฐ และแนวทางการดำเนินการของภาคเอกชนในการแก้ไขปัญหา

  • ควบคุมราคาสินค้าให้กับประชาชน เนื่องจากในปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ไวรัสโควิด 19 ทำให้การจับจ่ายใช้สอยลดลงไม่คึกคัก
  • แนวทางหรือมาตรการที่จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามา ควรทำอย่างรัดกุมโดยไม่ปล่อยให้ไวรัสโควิด 19 เกิดการแพร่ระบาดภายในประเทศอีกระลอก
  • ดูแลสถานการณ์ทางด้านการเมืองให้มีเสถียรภาพ เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน
  • รัฐควรเร่งใช้งบประมาณ และเร่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • หาแนวทางลดภาระหนี้นอกระบบของครัวเรือน
  • กระตุ้นการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศให้อยากเข้ามาติดต่อทำธุรกิจกับประเทศไทยให้มากขึ้นในหลาย ๆ ส่วนของภาคธุรกิจ

 

อ่านต่อ: ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ส.ค. 63 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3