กรุงไทยหืดจับปล่อยกู้เอสเอ็มอี “สงครามการค้า-มาตรการLTV”พ่นพิษ
ธนาคารกรุงไทยหืดจับปล่อยกู้ครึ่งปีแรก ชี้ต้องเผชิญผลกระทบสงครามการค้า-รัฐคุม “หนี้ครัวเรือน-LTV อสังหาฯ” ขณะที่สินเชื่อ “เอสเอ็มอี-เกษตร-ซัพพลายเชน” ต่ำเป้า กัดฟันตรึงเป้าปล่อยสินเชื่อทั้งปีเติบโตที่ 5% หวังรัฐบาลใหม่จัดมาตรการปลุกเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดเผยว่า จากต้นปีมาถึงขณะนี้การปล่อยสินเชื่อของธนาคารเติบโตกว่า 4% ใกล้เคียงเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 5% โดยปีนี้มีความท้าทายจากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐที่เกิดขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจบางส่วนของไทยในฐานะซัพพลายเชนการผลิตชิ้นส่วน และการให้บริการบางส่วนที่เชื่อมโยงกับจีนและสหรัฐ ขณะเดียวกันยังมีเรื่องนโยบายรัฐที่เข้ามาควบคุมสินเชื่อครัวเรือนและมาตรการควบคุมสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (LTV)
“ยอมรับว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อแผนธุรกิจในระดับหนึ่ง แต่ก็อยู่ในประมาณการที่คิดไว้แล้ว และจะต้องเฝ้าระวัง โดยปีนี้ธนาคารยังคงเป้าปล่อยสินเชื่อไว้ตามเป้าหมายเดิมที่ 5% แต่คงจะหนืดนิดหนึ่ง แต่ยังไม่ลดเป้า โดยสินเชื่อที่หย่อน ๆ ในขณะนี้คือสินเชื่อเอสเอ็มอี สินเชื่อภาคเกษตร และสินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีที่เป็นซัพพลายเชนของจีน ซึ่งเชื่อว่าหลังจากจัดตั้งรัฐบาลใหม่เข้ามาแล้วคงมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมา ความมั่นใจเกิดขึ้น การปล่อยสินเชื่อก็น่าจะเดินตามเเผนเดิมต่อไปได้ ครึ่งปีหลังน่าจะกลับมาดีขึ้น” นายผยงกล่าว
สำหรับมาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ส่งผลกระทบต่อการปล่อยสินเชื่อบ้านของธนาคารบ้าง แต่อยู่ในวงจำกัด เนื่องจากธนาคารได้ให้ความสำคัญกับเกณฑ์ชี้วัดการปล่อยสินเชื่อบ้านอยู่แล้ว
นายผยงกล่าวอีกว่า ส่วนสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่และสินเชื่อภาครัฐยังสามารถเติบโตได้ จากโครงการเดิมที่มีการอนุมัติไปแล้วก่อนหน้านี้และรอการเบิกจ่ายเพื่อดำเนินการ ส่วนโครงการใหม่อาจจะเห็นในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า แนวโน้มการปล่อยสินเชื่อครึ่งปีหลัง ธนาคารจะให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมากขึ้น เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวทำให้ความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ประกอบการชะลอตัวลงในระดับหนึ่ง โดยจะเข้าไปให้การช่วยเหลือลดภาระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อไม่ให้ธุรกิจสะดุด และสามารถประกอบธุรกิจภายใต้สถานการณ์ที่ตึงเครียดได้