ห่วงภัยแล้ง-ของแพงกดดันจีดีพี ชี้เลือกตั้งพยุงความเชื่อมั่นเอกชน

อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 2562
  • Share :
  • 359 Reads   

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจฯ เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นภาคเอกชนทั่วประเทศ ค่าดัชนี ก.พ. ดีขึ้นเล็กน้อย ชี้ปัจจัยรอความหวังนโยบายพรรคการเมืองและรัฐบาลจัดตั้งใหม่ โหมอัดงบ-ออกมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก หวังครึ่งหลังปี’62 จีดีพีโตถึง 4%

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือนกุมภาพันธ์ 2562 จากผู้ประกอบการ 377 ราย ระหว่างวันที่ 1-8 มีนาคม 2562 พบว่าค่าดัชนีอยู่ที่ 48.5% เพิ่มขึ้นจากเดือนมกราคม อยู่ที่ 48% ปัจจัยบวกส่งผลต่อความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น ผลจากกิจกรรมทางการเมืองและหาเสียงคึกคัก คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงดอกเบี้ยนโยบาย 1.75% สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2562 ขยายตัว 4% นักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศมากขึ้น ความเชื่อมั่นผู้บริโภคดีต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 สถานการณ์สงครามการค้าจีน-สหรัฐเริ่มผ่อนคลาย และค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อย ผู้ประกอบการจึงมีความเชื่อมั่นต่ออนาคตดีขึ้นด้วย และคาดว่าค่าดัชนีจะสูงเกณฑ์ 50% ในไม่ช้า

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนปัจจัยลบกระทบต่อความเชื่อมั่นผู้ประกอบการ คือ การส่งออกไทยลดลง ความวิตกต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนยังไม่ได้ข้อยุติ คาดว่าจะชัดเจนในอีก 2 เดือนข้างหน้า อาจกระทบต่อการส่งออกไทยอยู่ รวมถึงผลกระทบต่อราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศสูงขึ้น ทำให้เพิ่มความกังวลต่อปัญหาค่าครองชีพและราคาสินค้าทรงตัวระดับสูง และราคาสินค้าเกษตรส่วนใหญ่ยังคงตัวระดับต่ำ ทำให้กำลังซื้อในต่างจังหวัดขยายตัวไม่มาก จึงทำให้มุมมองต่อสถานการณ์เศรษฐกิจระดับจังหวัดทั้งด้านการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน การท่องเที่ยว ภาคเกษตร ภาคอุตสาหกรรม ภาคการค้า ภาคบริการ และการจ้างแรงงาน ยังไม่เปลี่ยนแปลง และมองว่าดีขึ้น ต่ำกว่าแย่ลง

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ดูรายภาคพบว่าค่าดัชนีปรับตัวดีขึ้นทุกภาค โดยเฉพาะภาคตะวันออกดัชนีเกิน 50% ต่อเนื่อง ตอนนี้ผลบวกทั่วประเทศจากกิจกรรมหาเสียงเลือกตั้งและภาคบริการท่องเที่ยวเติบโตดี ส่วนความน่ากังวลคือ ภาคเอกชนยังชะลอการลงทุนรอดูนโยบาย ปัญหาภัยแล้ง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลใหม่ต้องเร่งกระตุ้น ส่วนเศรษฐกิจโดยรวม ผู้ประกอบการมองว่าฟื้นตัวดีขึ้น และเศรษฐกิจไทยผ่านจุดชะลอตัวมาแล้วช่วงครึ่งหลังปี 2561

นายธนวรรธน์ กล่าวว่า ส่วนมุมมองต่อเศรษฐกิจไทยปี 2562 คาดว่าครึ่งปีแรกจะขยายตัวได้ 3.5% และครึ่งปีหลังขยายตัวได้ 4% ทำให้คาดการณ์เศรษฐกิจไทยทั้งปี 2562 ขยายตัว 3.8% ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์หลังเลือกตั้งวันที่ 24 มีนาคม และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ว่าจะมีนโยบายและเร่งพัฒนาเรื่องใดบ้าง คาดว่าจะเริ่มเห็นการทำงานและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ไตรมาส 3/2562 หรือตั้งแต่เดือนกันยายน-ตุลาคมนี้เป็นต้นไป

“สิ่งที่รัฐบาลใหม่ต้องดำเนินการเร่งด่วน คือ กระจายความเจริญสู่ชุมชนและพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และการคมนาคมในประเทศ แก้ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ มาตรการเพิ่มรายได้และกระตุ้นกำลังซื้อของประชาชน ส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ พัฒนาการท่องเที่ยวในชุมชนเพื่อเป็นการกระจายรายได้มากขึ้น ดึงดูดนักท่องเที่ยว การชี้แจงการทำงานภาครัฐเพื่อความโปร่งใส และป้องกันการคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ” นายธนวรรธน์กล่าว