046-FTA-ไทย-อียู-การค้าเสรี

พาณิชย์ ชง ฟื้นกรอบเจรจา FTA ไทย-อียู เร่งเสนอเข้าครม. แน่

อัปเดตล่าสุด 10 ต.ค. 2562
  • Share :

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ อยู่ระหว่างหาข้อสรุปการฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งตามกำหนดการ จะทำการรวบรวมผลการศึกษา ผลการรับฟังความคิดเห็น เพื่อเสนอระดับนโยบายพิจารณาเรื่องการฟื้นกรอบการเจรจาให้ได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งตามขั้นตอน จะเสนอให้คณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) พิจารณาก่อน จากนั้นจะเสนอให้คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) พิจารณา ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ความเห็นชอบต่อไป
 
ทั้งนี้ การตัดสินใจเรื่องการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียู เป็นไปตามที่ ครม.เศรษฐกิจได้มีมติให้เร่งดำเนินการเสนอ ครม. ให้ได้ภายในปี 2562 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับที่สหภาพยุโรปได้แต่งตั้งคณะกรรมาธิการยุโรปชุดใหม่ที่จะสามารถตัดสินใจหรือมีนโยบายเรื่องการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอกับไทย ถือเป็นเวลาที่ตรงกันพอดี และหากทั้ง 2 ฝ่ายมีข้อสรุปได้แล้ว การเจรจาน่าจะเริ่มต้นได้ปีหน้า ใช้เวลาเจรจาอย่างน้อย 1 ปี และจากนั้น จะเป็นเรื่องการดำเนินการภายในของไทยและอียู คาดว่าราว ๆ 1 ปีเช่นเดียวกัน จากนั้นถึงจะมีผลบังคับใช้

สำหรับความคืบหน้าการเตรียมการฟื้นการเจรจาในปัจจุบัน ล่าสุดกรมฯ ได้ให้สถาบันอนาคตศึกษาเพื่อการพัฒนา ทำการศึกษาวิจัยประโยชน์และผลกระทบที่ไทยจะได้รับจากการฟื้นการเจรจาเอฟทีเอไทย-อียูแล้ว โดยให้ศึกษาเปรียบเทียบความตกลงเอฟทีเอที่อียูได้ทำกับประเทศต่าง ๆ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เช่น เวียดนาม สิงคโปร์ และกลุ่มเมร์โกซูร์ ซึ่งประกอบด้วยบราซิล อาร์เจนตินา ปารากวัย และอุรุกวัย ว่าหากไทยไม่เร่งฟื้นการเจรจาจะเสียประโยชน์หรือโอกาสที่ควรจะได้รับหรือไม่ หากเข้าร่วมจะได้ประโยชน์อะไร และต้องปรับตัวอย่างไร ซึ่งมีกำหนดแล้วเสร็จในเดือน พ.ย.2562

ทั้งนี้ ในเบื้องต้น พบว่า หากไทยไม่เร่งเจรจา จะยิ่งทำให้ไทยเสียโอกาส เพราะสินค้าของเวียดนามและสิงคโปร์ ใกล้เคียงกับไทยมาก โดยภายใต้เอฟทีเอที่อียูทำกับเวียดนาม อียูจะลดภาษีให้เวียดนาม 99% ภายใน 7 ปี และจะลดทันที 71% เมื่อความตกลงมีผลบังคับใช้ ส่วนเวียดนามจะลดภาษีให้อียู 99% ภายใน 10 ปี และลดทันที 65% ขณะที่เอฟทีเอสิงคโปร์-อียู อียูจะลดภาษีให้สิงคโปร์ทันที 84% และสิงคโปร์จะลดภาษีให้อียู 80%

นอกจากนี้ กรมฯ จะเดินหน้าเปิดรับฟังความคิดเห็น ไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ได้แก่ ภาคตะวันออก จังหวัดชลบุรี วันที่ 10 ต.ค.2562 , ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 22 ต.ค.2562 , ภาคใต้ จังหวัดสงขลา วันที่ 28 ต.ค.2562 และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดขอนแก่น วันที่ 7 พ.ย.2562 และอาจจะปิดท้ายที่กรุงเทพฯ อีกครั้งก่อนสรุปและเสนอไปให้กับส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป