เอเชียอ่วม พิษสงครามการค้า

อัปเดตล่าสุด 12 มิ.ย. 2562
  • Share :

สงครามการค้าจีน - สหรัฐ ที่รุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดการไหลออกของเม็ดเงินเป็นอย่างมากในตลาดหุ้นเอเชียเดือนพฤษภาคม ซึ่งสำหรับภูมิภาคที่พึ่งพาการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีนแล้ว เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง

ปัจจุบัน ตลาดเอเชียถูกคาดหวังว่าจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพจากความตกลงการค้าสหรัฐ - จีน ซึ่งในช่วงเดือนมกราคม ถึงเดือนเมษายนที่ผ่านมานั้น มีเม็ดเงินไหลเข้ามาในตลาดเอเชียเป็นมูลค่ามหาศาล อย่างไรก็ตาม การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน เป็นมูลค่ากว่า 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแนวโน้มที่มาตรการคว่ำบาตรจะรุนแรงขึ้น ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือในตลาดเอเชียลดลงเป็นอย่างมาก

หากอ้างอิงข้อมูลจากตลาดหุ้นประเทศเกาหลีใต้, ไต้หวัน, อินเดีย, ไทย, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย, และเวียดนาม จะพบว่า ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มีการถอนเงินออกรวมแล้วเป้นมูลค่า 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีเกาหลีใต้ กับไต้หวัน ซึ่งมีความเกี่ยวโยงทางการค้ากับบริษัทเทคโนโลยีจีนสูงได้รับผลกระทบมากเป็นพิเศษ โดยในเดือนพฤษภาคม ไต้หวัน และเกาหลีใต้มียอดคงค้างจากการลงทุนหลักทรัพย์ต่างประเทศอยู่ที่ 700 ล้านดอลลาร์, อินโดนีเซียอยู่ที่ 411 ล้านดอลลาร์, ฟิลิปปินส์ 271 ล้านดอลลาร์, อย่างไรก็ตาม ในอินเดียมีการเข้าซื้อหุ้นสูงถึง 115 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นผลจากการที่รัฐบาลของนเรนทระ โมที ชนะการเลือกตั้ง และได้อยู่ในตำแหน่งต่ออีกสมัย ทำให้นักลงทุนต่างชาติมีความมั่นใจในอินเดียมากยิ่งขึ้น

คาดการณ์ว่า สงครามการค้า จะยังส่งผลกระทบต่อตลาดเอเชียต่อเนื่องอีกหลายเดือน และมีแนวโน้มสูงที่ตลาดเอเชียจะให้ความสำคัญกับการลงทุนจากธุรกิจในภูมิภาคมากกว่าธุรกิจต่างชาติ อย่างไรก็ตาม หากเศรษฐกิจของสหรัฐแย่ลงไปอีก ก็มีความเป็นไปได้อยากมากที่ระบบธนาคารกลางสหรัฐจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยให้กับตลาดเอเชียก็เป็นได้