หอการค้าเชียงรายดันค้าชายแดนปี’63 โต
หอการค้าเชียงรายดันค้าชายแดนปี 2563 โต ชงรัฐขับเคลื่อนทุกกรอบความร่วมมือ
น.ส.ผกายมาศ เวียร์ร่า รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย เปิดเผยว่า สถานการณ์การค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย ในปี 2562 ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่พอไปได้ แม้ว่าบางช่วงจะมีภาวะซบเซา เนื่องจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา และ สปป.ลาว รวมไปถึงมณฑลยูนนาน จีนตอนใต้ มีความต้องการบริโภคสินค้าจากไทย โดยเฉพาะด้าน อ.แม่สาย เชื่อมกับ จ.ท่าขี้เหล็ก รัฐฉาน และทางเรือแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน รวมทั้งสะพานมิตรภาพข้ามแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 ขณะเดียวกันภาคเอกชนคอยประสานความร่วมมือกับภาครัฐ เพื่อให้การค้าสามารถขับเคลื่อนไปได้ รวมทั้งแสวงหาโอกาสในการขยายความร่วมมือทางการค้าต่อไป โดยเฉพาะด้านรัฐฉาน ที่เป็นตลาดใหญ่และกำลังเปิดสู่โลกภายนอก ขณะที่มีปัญหาทางตอนบนของรัฐฉาน ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและชนกลุ่มน้อยต่าง ๆ จนบางครั้งมีผลกระทบบ้าง แต่ทำให้เป็นช่องทางที่จะอาศัยการค้าผ่านทางช่องทาง อ.แม่สาย ที่เชื่อมกับจุดผ่านแดนถาวร จ.ท่าขี้เหล็ก อันเป็นจุดผ่านแดนแห่งเดียวของรัฐฉานที่ติดกับประเทศไทย ในการร่วมมือทางการค้ากันต่อไปด้วย
น.ส.ผกายมาศ กล่าวอีกว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ สภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาปัญหาเรื่องผัก ผลไม้ และสมุนไพร ได้เดินทางไปยัง จ.เชียงราย เพื่อประชุมหารือกับหน่วยงานเรื่องการพัฒนาการค้าชายแดนและการส่งออกสินค้าผัก ผลไม้ และสมุนไพรของไทย รวมทั้งเดินทางไปศึกษาดูงานที่ชายแดนการค้าติดแม่น้ำโขงด้าน อ.เชียงของ และ อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว ทำให้ทางหอการค้า จ.เชียงราย ได้นำเสนอให้ขยายความร่วมมือกับจีน ตามกรอบความร่วมมือแม่น้ำล้านช้าง-น้ำโขง และการส่งเสริมการเป็นบ้านพี่เมืองน้อง หรือซิสเตอร์ซิตี้ กับมณฑลยูนนาน ประเทศจีน รวมถึงข้อตกลงการเดินเรือพาณิชย์ในแม่น้ำโขงตอนบน 4 ชาติ ไทย สปป.ลาว เมียนมา และจีนตอนใต้ และขอให้ยกเว้นการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการลงตรา ณ ช่องทางอนุญาตของด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือวีซ่าออนอาร์ไรวัล (visa on arrival) สำหรับประชาชนเมียนมาที่เข้ามาทางบกทุกด้านด้วย เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการท่องเที่ยวไปพร้อมกันต่อไป
รายข่าวจากสำนักงานพาณิชย์ จ.เชียงรายแจ้งว่า ในปี 2562 มูลค่าการค้าชายแดนด้าน จ.เชียงราย กับประเทศต่าง ๆ ทั้งประเทศเมียนมา สปป.ลาว ที่อยู่ติดกันและไปถึงจีนตอนใต้ ยังคงมีมูลค่าสูง โดยในเดือน ม.ค.มียอดการค้ารวม 4,279.71 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 3,675.05 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 604.66 ล้านบาท เดือน ก.พ.มีการค้ารวม 3,632.63 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 3,293.41 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 339.22 ล้านบาท เดือน มี.ค.มีการค้ารวม 4,006.30 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 3,647.23 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 359.07 ล้านบาท เดือน เม.ย.มีการค้ารวม 5,286.60 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 4,930.17 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 356.43 ล้านบาท
ต่อมาในเดือน พ.ค.มีการค้ารวม 4,671.88 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 4,167.83 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 504.05 ล้านบาท เดือน มิ.ย.มีการค้ารวม 3,965.62 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 3,368.77 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 596.84 ล้านบาท เดือน ก.ค.มีการค้ารวม 4,835.26 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 4,019.04 ล้านบาท นำเข้ามูลค่า 819.22 ล้านบาท และเดือน ส.ค.มีการค้ารวม 5,437.31 ล้านบาท แยกเป็น การส่งออกมูลค่า 4,401.65 ล้านบาท และนำเข้ามูลค่า 1,035.65 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง ปศุสัตว์ ผลไม้ เป็นต้น และสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินแร่ พืชผักสด ไม้ดอกไม้ประดับ อุปกรณ์ตกปลา