เศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ปี 2561
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ขยายตัวสูงกว่าที่คาด โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักมาจากการส่งออก, การท่องเที่ยว, การบริโภคภาคเอกชน และการผลิตภาคเกษตรที่ขยายตัวสูง ซึ่งเมื่อประกอบภาพกับไตรมาสแรก บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีแรกยังสามารถรักษาแรงส่งการเติบโตที่ดีได้อย่างต่อเนื่องโดยเติบโตประมาณ 4.8% (YoY) อย่างไรก็ตามมีการคาดการณ์ว่าในไตรมาสต่อไป อาจมีการชะลอตัวจากการส่งออกและการท่องเที่ยว
จากข้อมูลล่าสุดในเดือนกรกฎาคม สะท้อนว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แม้บางเครื่องชี้เริ่มชะลอลงอย่างจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ภูเก็ตเฉพาะกรุ๊ปทัวร์ แต่สำหรับผู้เดินทางท่องเที่ยวเองยังคงเดินทางมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งดัชนีราคาสินค้าเกษตรที่ยังคงหดตัวมากขึ้น
ทั้งนี้ กกร. มองว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง เศรษฐกิจไทยอาจเติบโตผ่อนแรงลง จากการขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงของการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเปรียบเทียบกับฐานที่สูงในปีก่อน รวมทั้งต้องติดตามการเดินหน้านโยบายด้านการค้าของสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบต่อสินค้าส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ ได้ นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบจากสถานการณ์น้ำต่อผลผลิตภาคเกษตรด้วย ส่วนการท่องเที่ยวยังคาดว่าจะมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น
สำหรับประเด็นความเปราะบางของเศรษฐกิจเกิดใหม่ ทั้งตุรกีและเวเนซุเอลานั้น แม้เป็นปัญหาที่เฉพาะตัวของแต่ละเศรษฐกิจ แต่ก็อาจจะสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดความผันผวนต่อทิศทางค่าเงินบาทได้
โดยรวมแล้ว แม้จะยังคงมีหลายปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามทั้งในและต่างประเทศ แต่ กกร. ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP), การส่งออก และอัตราเงินเฟ้อ ในปี 2561 นี้ จะยังคงอยู่ในกรอบประมาณการของ กกร. เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 61 ดังนี้
อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (GDP) |
อัตราการส่งออก |
อัตราเงินเฟ้อ |
4.3-4.8% |
7.0-10.0% |
0.9-1.5% |