กกร. ชี้ “COVID-19” กระทบ 45 อุตสาหกรรมไทย ฉุด GDP เหลือ 1.5-2.0%
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, และสมาคมธนาคารไทย โดยนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตฯ ในฐานะประธาน กกร. แถลงภายหลังการประชุมว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (COVID-19) ในหลายประเทศทั่วโลก ซึ่งยังไม่แน่นอนว่าจะคลี่คลายเมื่อใด เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ฉุดรั้งเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของปี 2563 โดยผลทางตรงจาก โควิด-19 กระทบต่อภาคการค้าและภาคการผลิตที่เชื่อมโยงกันทั่วโลก โดยมีถึง 45 อุตสาหกรรมไทยที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงกดดันภาคการบริการอย่างการท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่องให้หยุดชะงักลง ส่งผลกระทบทางอ้อมมายังภาคธุรกิจต่าง ๆ ให้มีการลดการจ้างงาน/ปิดกิจการ ซ้ำเติมประเด็นด้านกำลังซื้อของครัวเรือนที่เดิมก็อยู่ในภาวะที่เปราะบางจากหลายปัจจัยลบอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรงด้วย โดยคาดอัตราการขยายตัวของ GDP ไทยปี 2563 จะลดเหลือเพียง 1.5-2.0%
จากเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนมกราคม 2563 ที่เริ่มส่งสัญญาณการชะลอตัวลงในแทบทุกรายการ ที่ประชุม กกร. คาดว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน 2563 เครื่องชี้ต่าง ๆ น่าจะยิ่งสะท้อนถึงสถานการณ์เศรษฐกิจที่ซบเซาลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ทิศทางเศรษฐกิจหลังจากนั้น คงจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทยเป็นสำคัญ ซึ่งหากจำนวนผู้ติดเชื้อผ่านจุดสูงสุดไป เหตุการณ์ต่าง ๆ น่าจะทยอยคลี่คลายได้
เพื่อประคองเศรษฐกิจและภาคธุรกิจให้รอดพ้นจากวิกฤต COVID-19 เฉพาะหน้านี้ไปได้ กกร. คาดหวังให้ภาครัฐออกมาตรการทั้งด้านการคลังและด้านการเงินอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการลดภาระค่าใช้จ่ายและเติมสภาพคล่องให้กับธุรกิจต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็เตรียมการรับมืออย่างเพียงพอสำหรับความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดการแพร่ระบาดของโรคในประเทศไทย
แม้ภาครัฐกำลังอยู่ระหว่างเตรียมมาตรการเพื่อประคองเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดี ที่ประชุม กกร. ประเมินว่า ผลกระตุ้นจากมาตรการฯ อาจจะไม่สามารถชดเชยผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ที่ขยายเป็นวงกว้างทั้งต่อภาคธุรกิจและการจ้างงานโดยเฉพาะที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและห่วงโซ่การผลิตอุตสาหกรรม กกร. โดยมีผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมถึง 45 อุตสาหกรรมด้วยกัน จึงพิจารณาทบทวนประมาณการเศรษฐกิจในปี 2563 อีกครั้ง
ผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ต่อ 45 อุตสาหกรรมไทย
ภายใต้สมมติฐานที่การระบาดของไวรัส COVID-19 ทั้งในจีนและนอกจีนผ่านจุดสูงสุดได้ภายในกลางปีนี้ และกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ทยอยกลับมาฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ที่ประชุม กกร. คาดว่า อัตราการขยายตัวของ GDP ในปี 2563 จะอยู่ที่ 1.5-2.0% ลดลงจากประมาณการเดิมที่ 2.0-2.5% ขณะที่ยังคงประมาณการการส่งออกและเงินเฟ้อไว้ตามเดิม
ที่ประชุม กกร. เห็นว่าภาครัฐควรมีการจัดประชุม กรอ. เพื่อเป็นกลไกการดำเนินงานร่วมระหว่างภาครัฐและเอกชนในการผลักดันประเด็นที่เกี่ยวข้องทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ
อ่านต่อ: แถลงข่าว กกร. เดือน ก.พ.63