ขณะที่รัฐบาลพยายามผลักดัน “เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก” (EEC) โดยทุ่มการพัฒนาไปยัง 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ในอีกด้านหนึ่งหอการค้าหลายจังหวัดในภาคตะวันออกพยายามขับเคลื่อนแนวคิด เพื่อผลักดันให้ชีวิตของประชาชนในภาคตะวันออกทุกจังหวัดดีขึ้น

พัฒนาบุคลากร-กระจายรายได้
โดย “ปรัชญา สมะลาภา” รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจพื้นที่ภาคตะวันออก ได้มาบอกเล่าถึงบทสรุปหลังการทำเวิร์กช็อปรวบรวมความคิดของสมาชิกหอการค้าหลายจังหวัดในภาคตะวันออกถึงสิ่งเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการในการเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขัน

ได้แก่ 1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น โครงการรถไฟด่วนพิเศษ หัวลำโพง-อรัญประเทศ 2.การพัฒนาบุคลากร เช่น การจัดการหลักสูตรการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการให้มีการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์ในสถานประกอบการ 3.ส่งเสริมด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี เช่น โครงการ Big Data เพื่อนำมาใช้ประโยชน์การวิเคราะห์ด้านการค้าและการลงทุน 4.การแก้ไขกฎหมายให้สอดรับกับการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน เช่น การแก้ไขกฎหมายภาษีของธุรกิจออนไลน์

ส่วนในด้านลดความเหลื่อมล้ำเร่งด่วนที่อยากให้รัฐบาลดำเนินการ ได้แก่ 1.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยและภาษีที่ดินให้กับผู้ประกอบการอย่างเสมอภาคทั้งรายเล็ก และรายใหญ่ 2.การกระจายรายได้โดยการจัดสรรงบประมาณให้กับจังหวัดมากขึ้น 3.ประกันราคาสินค้าเกษตรเพื่อสร้างความมั่นคงด้านรายได้ 4.ส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนอย่างครบวงจรเพื่อกระจายรายได้ไปสู่ชุมชน และ 5.ส่งเสริมบริษัทขนาดใหญ่เข้ามามีส่วนในการพัฒนาและยกระดับผู้ประกอบการขนาดเล็ก เพื่อให้มีศักยภาพและโอกาสทางธุรกิจ

ดัน “มหานครอาหาร-อัญมณี”
สำหรับการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ระหว่างปี 2562-2563 สมาชิกหอการค้าภาคตะวันออกได้วางแนวทาง โดยแบ่งเป็นโครงการที่หอการค้าจะร่วมดำเนินการกับภาครัฐในส่วนการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ 1.การศึกษาออกแบบก่อสร้างท่าเทียบเรือสาธารณะบ้านด่านใหม่ เกาะช้าง 2.การผลักดันเรื่องมหานครแหล่งผลิตอาหารเกษตรปลอดภัยสูง 3.ศูนย์กระจายสินค้าเกษตรปลอดภัยชายแดน 4.การพัฒนาผู้ประกอบการในพื้นที่ EEC โดยเน้นการใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีอย่างทั่วถึง ทั้งในด้านการเกษตร การผลิต การบริการและการท่องเที่ยว (ทำงานร่วมกับ depa และหน่วยงานอื่น ๆ) ส่วนด้านการลดความเหลื่อมล้ำที่จะทำงานร่วมกับภาครัฐ ได้แก่ 1.นำระบบดิจิทัลเทคโนโลยีมาพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ EEC 2.ผลักดันมหานครอัญมณี 3.ผลักดันเมืองสมุนไพร

ขณะเดียวกันมีการผลักดันโครงการที่ต้องการให้ภาครัฐเข้ามาดำเนินการในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ 1.โครงการ Smart City ให้เกิดใน 4 จังหวัด คือ ชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา-จันทบุรี 2.เตรียมความพร้อมการยกระดับด่านชายแดนท่าเส้น 3.ศึกษาออกแบบก่อสร้างถนนเฉลิมบูรพาชลทิศ 4.โครงการรถไฟรางคู่ ระยอง-ตราด 5.โครงการพัฒนาระบบรถไฟด่วนพิเศษ เพื่อพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษสระแก้ว ในการเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์และการค้า การขนส่ง และการค้าชายแดน และ 6.โครงการถนนสีขาว

ด้านโครงการที่หอการค้าแต่ละจังหวัดจะร่วมมือดำเนินการกันเอง ในแง่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ การยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการ (Thaigap) ใน 3 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด และสระแก้ว ขณะที่ในด้านการลดความเหลื่อมล้ำ ทางหอการค้าจะดำเนินการผลักดันหลายกิจกรรม ได้แก่ 1.การจัดงานหอการค้าแฟร์ 2.โครงการ 1 หอการค้า ดูแลอย่างน้อย 1 ท่องเที่ยวชุมชน 3.โครงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 5 ชนเผ่า จ.สระแก้ว 4.ศึกษาเส้นทางท่องเที่ยวชุมชนตามเส้นทางเดินทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสิน

อุ้ม SMEs ลดภาษี-หาแหล่งทุน
สำหรับแนวทางด้านการค้า การลงทุน และการค้าชายแดน ในด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่อยากผลักดันให้ภาครัฐดำเนินการ ได้แก่ 1.การเพิ่มจุดบริการด้านศุลกากรบริเวณด่านชายแดน ขณะเดียวกันมีโครงการที่อยากให้ภาครัฐเข้ามาดำเนินการร่วมกับหอการค้า ได้แก่ การส่งเสริมผู้ประกอบการในประเทศ การสนับสนุน SMEs ด้วยการปรับภาษี การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และการเข้าถึงเทคโนโลยี เป็นต้น

ส่วนแนวทางด้านเกษตรและอาหาร ในด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่อยากผลักดันให้ภาครัฐร่วมกับหอการค้าดำเนินการ คือ 1.การปรับใช้เทคโนโลยีการเกษตร 2.การเพิ่มช่องทางการตลาดสินค้าเกษตร 3.การส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตรต่อยอดสินค้าเกษตร ส่วนด้านลดความเหลื่อมล้ำที่อยากผลักดันให้ภาครัฐร่วมกับหอการค้าดำเนินการ คือ การอบรมเพื่อเพิ่มทักษะองค์ความรู้ให้เกษตรกร นอกจากนี้ มีโครงการที่หอการค้าจะดำเนินการเอง ได้แก่ 1.โครงการทำมาตรฐานความปลอดภัยสินค้าเกษตร และ 2.การสร้างแบรนด์สินค้าเกษตร

หนุนเที่ยวชุมชน-ชายแดน
แนวทางด้านการท่องเที่ยวและบริการ ในด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันที่อยากผลักดันให้ภาครัฐร่วมกับหอการค้าดำเนินการ คือ 1.ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ 2.การนำระบบดิจิทัลมาปรับใช้ด้านการท่องเที่ยว 3.การพัฒนามาตรฐานด้านบุคลากรและการให้บริการ ส่วนด้านลดความเหลื่อมล้ำที่อยากผลักดันให้ภาครัฐร่วมกับหอการค้าดำเนินการ คือ ส่งเสริมการท่องเที่ยวชายแดน

ขณะเดียวกัน มีโครงการที่อยากผลักดันให้ภาครัฐดำเนินการในด้านการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน คือ การปรับปรุงภูมิทัศน์สถานที่ท่องเที่ยว ส่วนด้านลดความเหลื่อมล้ำ ที่อยากผลักดันให้ภาครัฐดำเนินการ คือ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยว ส่วนโครงการที่หอการค้าจังหวัดจะร่วมกันผลักดันเอง คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน เป็นต้น