ปัญหารุมเร้า กกร. ชี้ GDP ปี 63 ลดเหลือ 2.0-2.5%

อัปเดตล่าสุด 6 ก.พ. 2563
  • Share :

คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประกอบด้วย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, และสมาคมธนาคารไทย โดยนายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตฯ ในฐานะประธาน กกร. แถลงภายหลังการประชุมว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะเผชิญความท้าทายจากปัจจัยลบทั้งในและต่างประเทศ โดยปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญคือ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในประเทศจีน ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเมื่อใด ปัจจัยนี้ นอกจากจะเพิ่มความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจีนในปี 2563 จะชะลอตัวลงมากกว่าที่คาดและส่งผลทางลบมากขึ้นต่อการส่งออกของไทยแล้ว ยังเป็นแรงฉุดสำคัญต่อภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องของไทยให้ประสบกับความยากลำบาก เนื่องจากตลาดนักท่องเที่ยวจีนมีสัดส่วนด้านจำนวนและรายได้คิดเป็น 28% ของตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยทั้งหมด

ทั้งนี้ ภายใต้สมมติฐานการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในจีนอยู่ในกรอบเวลา 3-6 เดือน ในเบื้องต้น ผลกระทบจากรายได้การท่องเที่ยวที่หายไปอาจคิดเป็นมูลค่าประมาณ 108,000-220,000 ล้านบาท ครอบคลุมธุรกิจในห่วงโซ่ทั้งโรงแรมและที่พัก ร้านอาหาร ค้าปลีก และขนส่ง ขณะที่ผลกระทบอาจทำให้การส่งออกลดลงด้วย ซึ่งยังคงต้องติดตามสถานการณ์และประเมินผลกระทบอย่างใกล้ชิดต่อไป

สำหรับปัจจัยในประเทศ ได้แก่ ความล่าช้าของการมีผลบังคับใช้ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและการลงทุน และภัยแล้งที่รุนแรง ซึ่งเป็นแรงฉุดกำลังซื้อของครัวเรือนโดยเฉพาะกลุ่มฐานราก รวมทั้งปัญหาค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐานหรือ PM2.5 ที่อาจมีผลต่อคุณภาพชีวิตและการทำกิจกรรมกลางแจ้งของประชาชน   

ท่ามกลางปัจจัยลบรุมเร้าหลายประการข้างต้น ประกอบกับเศรษฐกิจไทยที่ขาดแรงขับเคลื่อน โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ที่ประชุม กกร. มองว่า มีความเสี่ยงมากขึ้นที่เศรษฐกิจไทยในปี 2563 จะเติบโตชะลอลงมากกว่าที่คาดไว้ จึงพิจารณาปรับลดประมาณการลงเป็นกรณีพิเศษในรอบนี้ โดย กกร. ประเมินว่า อัตราการขยายตัวของ GDP ในปี 2563 อาจลดลงมาที่ 2.0-2.5% (จากเดิม 2.5-3.0%) แต่ยังคงกรอบประมาณการอัตราการเติบโตของการส่งออกและเงินเฟ้อไว้ตามเดิม ในขณะที่คงต้องติดตามการออกมาตรการของทางการเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ 

กรอบประมาณการเศรษฐกิจปี 2562-2563 ของ กกร.

หมายเหตุ: * เป็นการประเมินผลกระทบจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาในจีนในกรอบระยะเวลา 3 เดือน

จากสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ทาง กกร.เห็นว่า ภาครัฐควรมีนโยบายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวม โดย กกร. เสนอให้ภาครัฐดำเนินการเร่งด่วนดังนี้

  1. ขอตั้งคณะกรรมการ กกร. ร่วมกับกรมบัญชีกลาง เพื่อปรับปรุงระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างให้เหมาะสม และการจัดซื้อ Local Content รวมทั้ง ช่วยเหลือให้ SME ในการเข้าประมูลภาครัฐ
  2. ขอยกเว้นการจ่ายประกันสังคมของลูกจ้างและผู้ประกอบการ SME เป็นระยะเวลา 6 เดือน     
  3. ขอให้คืน VAT ให้เร็วขึ้น ไม่เกิน 30 วัน      
  4. ลดค่าไฟฟ้า 5% จากยอดเรียกเก็บให้กับผู้ใช้ไฟฟ้า เป็นระยะเวลา 6 เดือน
  5. ภาคเอกชนจะประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและท่องเที่ยวในประเทศ โดยสนับสนุนให้ ร้านค้า โรงแรม และบริษัทในเครือข่าย จัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย 

 

อ่านต่อ: แถลงข่าว กกร. เดือน ม.ค.63