เมื่อ Overcapacity จีนป่วนตลาด เครื่องใช้ไฟฟ้าไทย

อัปเดตล่าสุด 10 มี.ค. 2568
  • Share :

ในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์สินค้าจีนหลั่งไหลเข้าสู่ไทยกลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางทั้งในแง่ของโอกาสและความท้าทายที่จะส่งผลต่อภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมภายในประเทศ โดยปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้สินค้าจีนเข้ามามีบทบาทในตลาดไทยอย่างรวดเร็ว ได้แก่ ต้นทุนการผลิตของจีนที่ต่ำทำให้สินค้าจีนมีความได้เปรียบทางด้านราคา นโยบายส่งเสริมการค้าของอุตสาหกรรมจีน ตลอดจนการเติบโตของอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน (Cross-Border E-Commerce: CBEC) ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคไทยสามารถซื้อสินค้าจากจีนได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง ทำให้สินค้าจากจีนสามารถเข้าสู่ไทยได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวข้างต้นทำให้สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนกลายเป็นตัวเลือกหลักของผู้บริโภคชาวไทย นั่นทำให้ผู้ประกอบการเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น และคาดว่าน่าจะส่งผลต่อโครงสร้างการแข่งขันของอุตสาหกรรมไทยในระยะยาวด้วย โดยบทความนี้จะวิเคราะห์ถึงปัญหาสภาวะกำลังการผลิตเกิน (Overcapacity) ของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีน การไหลของสินค้าดังกล่าวของจีนเข้าสู่ตลาดไทยและผลกระทบที่เกิดขึ้น

ปัญหาสภาวะกำลังการผลิตเกินของสินค้าจีนเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2018 และเริ่มเห็นชัดเจนขึ้นตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา สะท้อนจากดัชนีระดับสินค้าคงเหลือของจีน (ภาพที่ 1) คาดว่ามีสาเหตุหลักมาจากการส่งเสริมอุตสาหกรรมของรัฐบาลจีนอย่างแผนพัฒนาอุตสาหกรรม Made in China ซึ่งสนับสนุนให้บริษัทผลิตสินค้าในปริมาณมาก ทำให้กำลังการผลิตของอุตสาหกรรมจีนมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีปัจจัยสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ทำให้
การส่งออกของจีนไปยังตลาดสหรัฐฯ ชะลอตัว รวมทั้งช่วงวิกฤตโควิด-19 ที่เศรษฐกิจทั่วโลกหยุดชะงักแต่รัฐบาลจีนยังคงสนับสนุนให้โรงงานผลิตสินค้าอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อุปสงค์สินค้าภายในจีนก็ลดลงด้วย จนเริ่มเกิดเป็นภาวะสินค้าล้นตลาด (Oversupply)

ภาพที่ 1 ดัชนีระดับสินค้าคงเหลือของจีน

ที่มา: ผลกระทบจาก China Flooding ต่อภาคเศรษฐกิจของไทย (Impact of China Flooding on Thailand’s Economy) 
โดยธนาคารแห่งประเทศไทย

จากการพิจารณาข้อมูลการค้าสินค้าเครื่องใช้-ไฟฟ้าระหว่างจีนและไทย ตั้งแต่ ปี 2014 - 2023 พบว่า มูลค่าการส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าของจีนมาไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังปี 2018 ที่จีนได้เปรียบดุลการค้าอย่างชัดเจนเนื่องจากการส่งออกสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด สะท้อนถึงบทบาทของจีนในฐานะผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้ารายใหญ่ของโลกและการขยายตัวของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce) จีนที่เข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม การได้ดุลการค้าดังกล่าวของจีนอาจไม่ได้สะท้อนเฉพาะการส่งออกสินค้าจีนเพื่อขายในไทยเท่านั้นแต่อาจเป็นการอาศัยไทยเพื่อเป็นทางผ่าน (Re-routing) สำหรับส่งออกไปยังสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ด้วย

ภาพที่ 2 ดุลการค้าสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าระหว่างจีนกับไทย ตั้งแต่ ปี 2014 - 2023

ที่มา: Global Trade Atlas รวบรวมและเรียบเรียงโดยแผนกนโยบายและแผน สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

ซึ่งที่ผ่านมาผู้ประกอบการสินค้าเซลล์แสงอาทิตย์สัญชาติจีนต้องการหลีกเลี่ยงภาษีจากมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping) ของสหรัฐฯ จึงย้ายฐานการผลิตมายังไทยเพื่อผลิตและส่งออกไปสหรัฐฯ แทน ทำให้ไทยมีมูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดจนถูกสหรัฐฯ ใช้มาตรการปกป้อง (Safeguard) มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (Anti-Dumping: AD) และมาตรการหลบเลี่ยงมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุน (Anti-Circumvention: AC) อยู่ในปัจจุบัน

ปัญหาสภาวะกำลังการผลิตเกินที่เกิดขึ้นของจีน ส่งผลให้ผู้ผลิตจีนต้องเร่งระบายสินค้าผ่านการส่งออกในราคาที่แข่งขันได้ ทำให้สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่จีนผลิตเป็นจำนวนมาก มีต้นทุนต่ำและมีราคาถูกถูกส่งออกมายังไทยมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากมูลค่าการนำเข้าของสินค้ากระติกน้ำร้อน เตาอบไมโครเวฟ และหม้อหุงข้าวของไทยจากจีนที่เพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (ภาพที่ 3)

ภาพที่ 3 มูลค่าการนำเข้าสินค้ากระติกน้ำร้อน เตาอบไมโครเวฟ และหม้อหุงข้าวของไทยจากจีน ตั้งแต่ปี 2014 – 2023

ที่มา: Global Trade Atlas รวบรวมและเรียบเรียงโดยแผนกนโยบายและแผน สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

เมื่อผู้ผลิตในประเทศไม่สามารถแข่งขันกับสินค้านำเข้าจากจีนได้ ส่งผลให้ผู้ผลิตไทยอาจลดกำลังการผลิตหรือหยุดผลิตสินค้ารวมถึงอาจพึ่งพาสินค้านำเข้าจากจีนมากขึ้นแทนการผลิตภายในประเทศ 
ซึ่งนำไปสู่การหดตัวของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (Manufacturing Production Index: MPI) ของสินค้ากระติกน้ำร้อน เตาอบไมโครเวฟ และหม้อหุงข้าวในช่วงปี 2022 - 2023 (ตารางที่ 1)

ตารางที่ 1 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก ปี 2021 - 2023

ที่มา: ศูนย์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวบรวมโดยแผนกนโยบายและแผน สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
หมายเหตุ: ปี 2021 คือ ปีฐาน

ขณะที่เมื่อพิจารณาสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ เช่น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น พบว่า ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก ประกอบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่เป็นสินค้าที่มีกระบวนการผลิตที่ซับซ้อน ต้องมีมาตรฐานทั่วไปและมาตรฐานบังคับทั้งด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพพลังงาน ทำให้ไทยยังคงเป็นฐานการผลิตที่แข็งแกร่งและแข่งขันกับสินค้าจากจีนได้ อย่างไรก็ตาม เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ของไทยก็น่าจะได้รับผลกระทบจากปัญหาสภาวะกำลังผลิตเกินของจีนเช่นกัน 
แต่อาจจะไม่ได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัดเหมือนสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กของไทย สะท้อนจากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ของสินค้าเครื่องซักผ้าที่มีการขยายตัวมากขึ้นในปี 2023 หรือในสินค้าเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นที่มีการหดตัวเพียงเล็กน้อยจากปี 2022 (ตารางที่ 2)

ตารางที่ 2 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ ปี 2021 - 2023

ที่มา: ศูนย์ข้อมูลเชิงลึกอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวบรวมโดยแผนกนโยบายและแผน สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
หมายเหตุ: ปี 2021 คือ ปีฐาน

ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเข้ามาของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนปริมาณมาก

การเข้ามาของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนในปริมาณมาก นอกจากจะส่งผลต่อโครงสร้างการค้าไทยแล้ว ยังนำมาซึ่งผลกระทบหลายด้านทั้งต่อผู้บริโภค ผู้ผลิตในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทย และสิ่งแวดล้อม โดยการเปลี่ยนแปลงนี้มีทั้งด้านบวกและด้านลบ ซึ่งสะท้อนถึงความท้าทายที่ไทยต้องเผชิญในยุคที่การแข่งขันด้านราคามีความเข้มข้นมากขึ้น

ผลกระทบเชิงบวก

  • หากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนที่เข้าสู่ตลาดไทยเป็นสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากลหรือมาตรฐานที่ใกล้เคียงกับมาตรฐานที่ไทยกำหนดจะเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าหลากหลายประเภทในราคาที่ถูกลง และตรงกับความต้องการมากขึ้น ทั้งในแง่ของราคา คุณภาพ และฟังก์ชันการใช้งาน
  • การเข้ามาของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนจะช่วยสร้างการแข่งขันในตลาด ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับกลยุทธ์การขายเพื่อดึงดูดลูกค้ามากขึ้น เช่น การเพิ่มคุณภาพและการพัฒนาสินค้า การปรับลดราคา บริการหลังการขาย เป็นต้น ส่งผลให้ผู้บริโภคได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้น

ผลกระทบเชิงลบ

หากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนที่เข้าสู่ตลาดไทยเป็นสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่มีการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ อาจส่งผลต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค นอกจากนี้ สินค้าคุณภาพต่ำมักจะมีอายุการใช้งานสั้น ไม่มีการรับประกันและบริการหลังการขาย ซึ่งทำให้ผู้บริโภคต้องเปลี่ยนสินค้าใหม่อยู่บ่อย ๆ

ผลกระทบต่อผู้ผลิต

ผลกระทบเชิงบวก

  • การแข่งขันที่สูงขึ้นอาจทำให้ผู้ประกอบการในประเทศปรับกลยุทธ์ไปสู่ตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงหรือสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าจีน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างแบรนด์ระดับพรีเมียมและตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคบางกลุ่มที่ยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้า

ผลกระทบเชิงลบ

  • ผู้ประกอบการในประเทศต้องเผชิญกับแรงกดดันทางด้านราคาเนื่องจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำกว่าจากการผลิตเป็นจำนวนมาก (Economies of Scale) ทำให้สามารถตั้งราคาสินค้าได้ถูก นอกจากนี้ การขายสินค้าผ่าน E-Commerce ทำให้แบรนด์สินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนสามารถขายสินค้าให้กับผู้บริโภคไทยได้โดยตรง ยิ่งทำให้ต้นทุนและราคาสินค้าถูกลงไปอีก
  • หากผู้ประกอบการในประเทศโดยเฉพาะธุรกิจขนาดเล็กและ SME ไม่สามารถแข่งขันกับสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจีนได้ อาจทำให้ผู้ประกอบการเลือกที่จะนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายแทนการผลิตเองหรือบางรายอาจต้องปิดกิจการลงหากไม่สามารถปรับตัวได้

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ผลกระทบเชิงบวก

การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอาจผลักดันให้ผู้ผลิตไทยพัฒนาเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ประหยัดพลังงานและใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเพื่อสร้างความแตกต่างจากสินค้าจีน

 

ผลกระทบเชิงลบ

หากสินค้าราคาถูกจากจีนที่เข้าสู่ตลาดไทยเป็นสินค้าคุณภาพต่ำ ซึ่งมีอายุการใช้งานสั้น ผู้บริโภคอาจต้องเปลี่ยนสินค้าใหม่บ่อยมากขึ้น ส่งผลให้ปริมาณขยะเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และนำไปสู่ปัญหาด้านการจัดการซากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ในอนาคต

สรุป

การหลั่งไหลของสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนเข้าสู่ตลาดไทยโดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายที่ส่งผลต่อทั้งผู้บริโภคและผู้ประกอบการในประเทศ แม้ว่าผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กราคาถูกและมีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้น แต่ก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงด้านคุณภาพและความปลอดภัยของสินค้า ในขณะเดียวกัน ผู้ผลิตไทยต้องเผชิญกับการแข่งขันที่รุนแรงจากสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กของจีนที่มีต้นทุนต่ำและสามารถเข้าสู่ตลาดไทยได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะแพลตฟอร์มออนไลน์ ส่งผลให้ผู้ประกอบการบางรายต้องลดกำลังการผลิตและปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจเพื่อความอยู่รอด

อย่างไรก็ตาม การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัวไปสู่ตลาดสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่มีคุณภาพสูงหรือมีนวัตกรรมที่แตกต่างจากสินค้าจีน ซึ่งอาจช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวได้ ดังนั้น ภาครัฐและภาคเอกชนควรร่วมมือกันกำหนดนโยบายและมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรับมือกับผลกระทบของ Overcapacity ในจีน โดยเฉพาะการควบคุมมาตรฐานสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนเพื่อป้องกันไม่ให้สินค้าคุณภาพต่ำหรือสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยเข้าสู่ไทย รวมถึงเสริมสร้างศักยภาพของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าไทยให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ การที่ผู้ผลิตสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าสัญชาติจีนย้ายฐานการผลิตมาไทยและพึ่งพาไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตและส่งออกไปยังสหรัฐฯ เช่น ไฮเออร์ (Haier) ที่ตั้งโรงงานผลิตเครื่องปรับอากาศขนาดใหญ่แห่งแรกในไทยและภูมิภาคอาเซียน หรือไมเดีย (Midea) ที่เข้ามาตั้งโรงงานในไทยเพื่อเป็นฐานการผลิตเครื่องปรับอากาศอัจฉริยะในครัวเรือน เป็นต้น อาจทำให้ไทยตกเป็นเป้าหมายของสหรัฐฯ ในการปรับเพิ่มภาษีนำเข้ากับไทยหรืออาจถูกใช้มาตรการกีดกันทางการค้าอื่น ๆ เพิ่มเติมเนื่องจากมีมูลค่าการส่งออกสูงอย่างก้าวกระโดด ดังนั้น ไทยควรเฝ้าระวังและประเมินความเสี่ยงอย่างใกล้ชิด เพื่อเตรียมรับมือกับมาตรการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและการส่งออกในอนาคต