‘อำนาจชัยกิจ’ ธุรกิจตกแต่งภายในครบวงจรอายุ 40 ปี ปรับตัวให้เท่าทันดิจิทัล เริ่มต้นที่ระบบงานซ่อมบำรุง
หากพูดถึงการนำ ‘เทคโนโลยี’ มาใช้เปลี่ยนผ่านธุรกิจไปสู่ระบบดิจิทัล คนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงองค์กรขนาดใหญ่ที่มีบุคลากรหลักพันหรือว่าหลักหมื่น แท้จริงแล้วไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ ขนาดกลาง หรือว่าขนาดย่อมก็สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ยกระดับองค์กรและปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ก้าวไปสู่ยุคดิจิทัล ผ่านการลดทุน เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมถึงอำนวยความสะดวกในการทำงานแก่พนักงานมากขึ้น
‘อำนาจชัยกิจ’ หนึ่งในผู้นำตลาดด้านการผลิตงานเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในของประเทศไทยที่ทำงานรับเหมาผลิตและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร ให้กับธุรกิจศูนย์การค้า โรงแรม คอนโดมิเนียม และอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังหลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะเป็นเครือเซ็นทรัล เครือแอสเสท เวิรด์ คอร์ป ฯลฯ ที่มีอายุกว่า 40 ปีและมีพนักงานกว่า 200 คนได้นำ ‘เทคโนโลยี’ มาช่วยบริหารประสิทธิภาพการทำงาน
เพราะผู้บริหารของอำนาจชัยกิจเชื่อในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ทันโลกอยู่เสมอ ตั้งแต่การเลือกใช้เครื่องจักร อุปกรณ์ รวมถึงระบบ Software ที่ใช้ในการทำงานก็เลือกใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ‘ระบบงานซ่อมบำรุง’ ที่ผู้บริหารของอำนาจชัยกิจเชื่อว่า จำเป็นจะต้องได้รับการเปลี่ยนผ่านสู่การทำงานแบบดิจิทัล สร้างการทำงานที่เป็นระบบและมีประสิทธิภาพ อันนำไปสู่การตัดสินใจเดินหน้าเปลี่ยนผ่านระบบงานซ่อมบำรุงเข้าสู่ระบบงานดิจิทัลทั้งหมด
วันนี้เราแวะมาคุยกับ 2 บุคลากรคนสำคัญของ ‘อำนาจชัยกิจ’ อย่าง ‘คุณเพชรรัตน์ ก้อนทอง’ หัวหน้าฝ่ายซ่อมบำรุง และ ‘คุณณัฐกร แก้วนุช’ ช่างซ่อมบำรุง ที่เป็นหัวเรือสำคัญในการปรับเปลี่ยนกระบวนการบริหารจัดการการซ่อมบำรุงของ ‘อำนาจชัยกิจ’ จากระบบแมนนวล เข้าสู่ระบบดิจิทัลอย่างเต็มตัว
ธุรกิจอายุ 40 ปี ตัดสินใจไปดิจิทัล
กว่าจะมาเป็น ‘หนึ่งในผู้นำตลาดผลิตงานเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในครบวงจร’ นั้น ‘อำนาจชัยกิจ’ ใช้เวลาเดินทางบนเส้นทางนี้มากว่า 40 ปี ถือเป็นองค์กรที่อายุไม่น้อยแล้วในวงการตกแต่งภายในครบวงจร โดยตลอดเส้นทางที่ผ่านมา ‘อำนาจชัยกิจ’ ค่อยๆ ปรับเปลี่ยนองค์กรจากภายในมาตลอดในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเลือกเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างเครื่องจักร อุปกรณ์ โปรแกรมที่ใช้ในการผลิตและดำเนินงานที่อัปเดตให้ใหม่ขึ้นตามโลกทันอยู่เสมอ
‘คุณเพชรรัตน์’ เล่าว่า ผู้บริหารของอำนาจชัยกิจมองว่า ‘โลกข้างนอก’ เปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจไหนๆ ก็ตาม อย่างธุรกิจขนส่งในยุคนี้ก็หันมาใช้แอปพลิเคชันเป็นแกนกลางในการดำเนินงาน ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพต์ติดต่อกัน ดังนั้น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และตกแต่งภายในครบวงจรของเราจำเป็นต้องโตขึ้นให้เท่าทันโลกเช่นเดียวกัน
ความหมายของคำว่า ‘เท่าทันโลก’ ของ ‘อำนาจชัยกิจ’ คือ การปรับปรุงองค์กรที่จะช่วยให้พนักงานสามารถทำงานง่ายขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ใช้เวลาและพลังงานน้อยลง องค์กรจึงเลือกเปลี่ยนผ่านสู่งานดิจิทัลแทนงานเอกสารแบบเดิมๆ
วางรากฐานงานซ่อมบำรุง เตรียมพร้อมองค์กรสู่อนาคต
นอกจากงานผลิตและติดตั้งแล้ว ‘งานซ่อมบำรุง’ เองถือเป็นส่วนสำคัญขององค์กร หากขาดงานซ่อมบำรุงไป งานผลิตและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์มากกว่า 200 ชิ้นย่อมเดินต่อได้ยาก ทำให้ส่วนงานซ่อมบำรุงของอำนาจชัยกิจเองก็ต้องการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ระบบดิจิทัลด้วย
“ผมคิดว่าอำนาจชัยกิจมองถึงอนาคต เพราะเครื่องจักรของเราเยอะขึ้นทุกวัน อนาคตคนที่จะเข้ามาทำงานด้วยก็จะเพิ่มขึ้นไปด้วย … ระบบงานซ่อมบำรุงที่เป็นดิจิทัลจะช่วยให้บุคลากรใหม่เริ่มงานได้ง่ายขึ้น เชื่อมต่อกับงานได้ทันที” คุณเพชรรัตน์บอก
โดยระบบงานที่ ‘อำนาจชัยกิจ’ เลือกใช้กับงานซ่อมบำรุง คือ D MService ระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงที่ออกแบบและพัฒนาโดย PTT Digital ให้บริการทั้งแบบ Web Application และ Mobile Application ที่สามารถวางแผนและบันทึกผลการซ่อมบำรุงเครื่องจักรได้ในทุกอุตสาหกรรม พร้อมสามารถให้ผู้ปฏิบัติงานและผู้บริหารติดตามขัอมูลแบบ Real Time ได้
แบ่งฟีเจอร์หลักๆ ออกเป็นระบบการวางแผน การแจ้งซ่อมและบันทึกผลการซ่อม บันทึกผลการซ่อมบำรุงตามแผน สร้างใบเบิกอะไหล่ การตรวจสอบคุณภาพ ติดตามสถานะ Real Time และสุดท้าย คือ ฟีเจอร์บันทึกและอนุมัติผลออนไลน์จากหัวหน้างาน
‘คุณเพชรรัตน์’ อธิบายว่า สำหรับเขาระบบงานของ D MService เป็นการช่วยวางรากฐานงานซ่อมบำรุงให้กับ ‘อำนาจชัยกิจ’ ในระยะยาว ช่วยลดภาระและงานเอกสารให้กับช่างซ่อมบำรุงคนอื่นๆ อย่าง ‘คุณณัฐกร’ รวมถึงคนที่กำลังจะมาเพิ่มในอนาคต ซึ่งช่วยให้สามารถวางแผนการทำงานร่วมกับทีม ร่วมกับซัพพลายเออร์ได้สะดวกขึ้นด้วย
ทางด้าน ‘คุณณัฐกร’ เล่าว่า ส่วนที่เขาชอบที่สุดในการใช้งานระบบบริหารจัดการงานซ่อมบำรุงดิจิทัลอย่าง D MService คือ ‘ความง่าย’ ทันทีที่เริ่มงานก็สามารถทำหน้าที่ของตัวเองได้ทันที เนื่องจากมีข้อมูลการซ่อมบำรุงที่ผ่านมาอยู่ในระบบอยู่แล้ว รวมถึงไม่ต้องอาศัยงานเอกสาร หรือการติดต่องานผ่านทางไลน์เหมือนกับตอนที่ยังไม่มีระบบ D MService รวมถึงยังทำให้เขาทราบประวัติการซ่อมบำรุงของเครื่องจักรทั้งหมด โดยไม่ต้องเริ่มใหม่จากศูนย์อีกด้วย
ความสำเร็จของงานดิจิทัล คือ การสื่อสาร
อีกเรื่องที่หลายๆ คนอาจจะสงสัยคือ ทำไมอำนาจชัยกิจถึงค่อยๆ เปลี่ยนผ่านงานระบบหลายๆ งานสู่ระบบดิจิทัลได้สำเร็จ ‘คุณเพชรรัตน์’ เชื่อว่าปัจจัยที่จะทำให้ระบบงานดิจิทัลประสบความสำเร็จในการใช้งานในองค์กรต่างๆ ได้ คือ การสื่อสาร สร้างองค์ความรู้และความเข้าใจกันให้ตรงกันในองค์กร ให้ทุกคนหันมาศึกษาและทดลองใช้งานไปร่วมกัน
‘คุณณัฐกร’ ฝากถึงช่างซ่อมบำรุงและบุคลากรที่จะต้องเริ่มเข้าสู่ระบบงานดิจิทัลว่า “ก่อนอื่นต้องลองเปิดใจลองใช้ดูก่อน ถ้าเกิดได้ลองใช้จะรู้ว่าดีต่อตัวเองยังไง ดีกว่าการใช้กระดาษ เพราะเอกสารยังมีหาย แต่หากใช้งานผ่านระบบ กระบวนการทำงานทุกอย่างที่ผ่านมาจะมีอยู่ในโปรแกรม ในแอปฯ ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนหลังดูได้ทั้งหมด สะดวกต่อตัวเราและสะดวกต่อการเก็บหลักฐานด้วย”
สำหรับ PTT Digital ที่เป็นผู้ให้บริการระบบงาน D MService ‘คุณเพชรรัตน์’ ก็ยืนยันว่า มีความกระตือรือร้นและเอาใจใส่ตลอด โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นใช้งานระบบที่ PTT Digital เข้ามาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดให้กับทีมงานของอำนาจชัยกิจ
สุดท้ายเรื่องราวของธุรกิจตกแต่งภายในครบวงจรอายุ 40 ปีที่เท่าทันโลกและเท่าทันดิจิทัลอย่าง ‘อำนาจชัยกิจ’ ได้สะท้อนให้เห็นว่า หากเข้าใจวิธีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการทำงานอย่างถูกต้อง ย่อมจะช่วยลดต้นทุน ลดเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงช่วยปูทางสู่การขยายธุรกิจให้เติบโตสู่ความสำเร็จที่เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต