แนวโน้มการทำงานในอนาคต, Microsoft, future of work, Davos 2023

3 เทรนด์การทำงานแห่งอนาคต จาก Microsoft

อัปเดตล่าสุด 17 ก.พ. 2566
  • Share :
  • 1,685 Reads   

CEO ของ Microsoft เผย มุมมองเกี่ยวกับการทำงานในอนาคตที่ Davos 2023 โดย ‘เอไอ-ปัญญาประดิษฐ์’ จะเปรียบเสมือน ‘Co-pilot ผู้ช่วยนักบิน’ ที่มาช่วยทำงานไม่ใช่มาทำงานแทนทั้งหมด

เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2023 World Economic Forum (WEF) เผยแพร่บทความ “3 เทรนด์ที่จะเป็นตัวกำหนดการทำงานแห่งอนาคต โดย CEO Microsoft” จากงานฟอรัม future of work at Davos 2023 ซึ่งนาย Klaus Schwab ผู้ก่อตั้งและประธาน World Economic Forum ได้ร่วมสนทนากับนาย Satya Nadella CEO บริษัทไมโครซอฟท์ (Microsoft) 

Advertisement

นาย Satya Nadella กล่าวว่าถึงประเด็นนี้ว่า “เรายังคงเรียนรู้อยู่ เพราะมีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอย่างแท้จริง และมีรูปแบบการทำงานใหม่ ๆ เกิดขึ้น” ซึ่ง WEF ได้สรุปประเด็นสำคัญไว้ 3 ประการดังนี้

1. ความหวาดระแวงด้านผลิตภาพ (Productivity paranoia) 

นาย Nadella ระบุถึงความหวาดระแวงด้านผลิตภาพมักจะเกิดขึ้นเมื่อผู้นำองค์กรมองว่าการทำงานไม่มีประสิทธิผล แต่คนอื่น ๆ ในองค์กรกลับรู้สึกหมดไฟเสียแล้ว

แน่นอนว่า ผลผลิตต่อชั่วโมงทำงานเป็นตัวชี้วัดสำคัญในการผลิต และมีความสำคัญต่อผู้กำหนดนโยบายเป็นอย่างมาก ซึ่งนาย Nadella อธิบายว่า การแก้ไขปัญหานี้จะต้องมีการซักถามข้อมูลเพื่อนำไปสู่การวางแผนปรับปรุง และควรมุ่งเน้นไปที่ผลลัพธ์ เพื่อมองหารูปแบบการทำงานใหม่ที่จะประสบความสำเร็จอีกครั้ง

“WEFเผยว่า ในปี 2020 อัตราส่วนแรงงานต่อออโตเมชันอยู่ที่ 67 ต่อ 33 และคาดว่าจะกลายเป็น 53 ต่อ 47 ในปี 2025”  

Image Credit: World Economic Forum

2. AI คือผู้ช่วยนักบิน

การพัฒนาด้าน Machine Learning ทำให้งานด้านความรู้ ความเข้าใจ และความคิดสร้างสรรค์ที่ซับซ้อนกำลังอยู่บนการทำงานอัตโนมัติที่พร้อมมากขึ้น ซึ่งเป็นหัวข้อหลักในการประชุมประจำปีที่เมืองดาวอสครั้งนี้

นาย Nadella กล่าวว่า สิ่งหนึ่งที่เราคิดกันมากคือการปรับใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อช่วยให้มนุษย์ทำอะไรได้มากขึ้น โดยยกตัวอย่างนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้เทคโนโลยี Generative AI ในการเขียนโค้ดมากถึง 80% แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า การทำงานของคนจะไม่จำเป็นหรือซ้ำซ้อน เพราะตัวช่วยจากเอไอ 80% นัันเปรียบเสมือน Co-pilot หรือผู้ช่วยนักบินเท่านั้น

WEF อ้างอิงข้อมูลเมื่อเดือนมกราคม 2023 จาก Statista ระบุว่า มีบริษัทและองค์กรทั่วโลกใช้ Open AI รวม 902 บริษัท แบ่งเป็น

  • เทคโนโลยี 251 ราย
  • การศึกษ  209 ราย
  • บริการด้านธุรกิจ 98 ราย
  • การผลิต 89 ราย
  • การเงิน 44 ราย
  • ค้าปลีก 35 ราย
  • สุขภาพ 24 ราย
  • รัฐบาล 18 ราย
  • สื่อและอินเตอร์เน็ต 17 ราย
  • อื่น ๆ 11 ราย

3. คนและซอฟต์สกิลคือทางสู่ความสำเร็จ

นาย Nadella เล็งเห็นว่า ทุกคนจะต้องเรียนรู้ซอฟต์สกิล (Soft Skills) มากขึ้น และใช้เวลาในการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหวางผู้คน นอกจากนี้ คนที่ยังไม่พึงพอใจในทักษะของตนต่องานที่ทำ ก็จะทำให้คนนั้นไม่มีความภักดีต่อองค์กร

จากรายงานปี 2020 ของ WEF ระบุ 10 ทักษะที่สำคัญในปี 2025 ดังนี้

1. การคิดเชิงวิเคราะห์ และนวัตกรรม
2. การเรียนรู้แบบลงมือทำ และกลยุทธ์การเรียนรู้
3. การแก้ไขปัญหาที่มีความซับซ้อน
4. การคิดเชิงวิพากย์
5. ความคิดสร้างสรรค์และความคิดริเริ่ม
6. ความเป็นผู้นำ และอิทธิพลทางสังคม
7. การใช้เทคโนโลยี การตรวจสอบและควบคุม
8. การออกแบบซอฟต์แวร์ และการเขียนโปรแกรม
9. ความสามารถในการรับมือกับความไม่แน่นอน ความยืดหยุ่นและความทนทานต่อความเครียด
10. การใช้เหตุผล การแก้ปัญหา และกระบวนคิด

 

Image Credit: World Economic Forum

 

#แนวโน้มการทำงานแห่งอนาคต #Microsoft #AI #softskills #mreportth #ข่าวอุตสาหกรรม #onlinecontent

 

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH