สุชาติ อรุณแสงโรจน์ "ไม่มีอะไรหยุด เอ.พี.ฮอนด้าได้"
สัมภาษณ์
ปีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่แวดวงสองล้อบ้านเรา มีดีกรีการแข่งขันที่คึกคัก หลังผู้เล่นแต่ละรายลงมาจับกลุ่มลูกค้าแบบเจาะลึกมากขึ้น เรียกว่า แยกย่อยเซ็กเมนต์ เข้าถึงการใช้งานของลูกค้าอย่างแท้จริง ส่วนใครจะตอบไลฟ์สไตล์ เรียนรู้พฤติกรรมและสร้างความเข้าใจลูกค้ากว่ากัน ไปฟังจากปาก "สุชาติ อรุณแสงโรจน์" แม่ทัพใหญ่ค่าย เอ.พี.ฮอนด้า ที่ตอนนี้ประกาศแนวรบเต็มรูปแบบ ยึดตลาดเบอร์หนึ่งสองล้อไม่ให้หลุดกระเด็นไปไหนภายใต้แคมเปญใหม่ "มุ่งไป อย่าให้อะไรมาหยุดคุณได้" หรือ "WHAT STOPS YOU?”
Q : ตลาดมอเตอร์ไซค์ปีนี้จะทะลุหลัก 2 ล้านคันไหม
สำหรับภาพรวมของตลาดรถมอเตอร์ไซค์ในปีนี้ เรามองว่าน่าจะใกล้เคียงกับปีก่อนเมื่อประเมินจากตัวเลขทางเศรษฐกิจ อัตราการเติบโตของ จีดีพี และบรรยากาศโดยรวมของประเทศ เอ.พี.ฮอนด้า เชื่อว่าตลาดจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น
แต่ไม่ใช่การเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.7-1.8 ล้านคัน ส่วนจะขึ้นไปถึงหลัก 2 ล้านคันนั่น ยังไม่ใช่อย่างแน่นอน
ยอดขายปีนี้น่าจะโต 3-4% และความต้องการหลักที่จะผลักดันให้ตลาดเติบโตนั้น ก็เป็นการเติบโตในตลาดทดแทนมากกว่า คือซื้อเพื่อทดแทนคันเก่า และซื้อเป็นคันที่ 2 เพราะอยากใช้งานรุ่นที่ใหญ่ขึ้น
Q : รถสปอร์ตยังเป็นเป้าหมายหลัก
ปีนี้เรามีรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ เปิดตัวถึง 10 รุ่น เชื่อว่า ตลาดจะคึกคักอย่างแน่นอน และหนึ่งในนั้นจะเป็นรถอีวี และรถไฮบริด เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้กับลูกค้าชาวไทย นอกจากนี้ยังไม่นับรวมกลุ่มบิ๊กไบก์ที่จะมีการแนะนำออกมาด้วยอย่างที่บอกว่าตลาดจะคึกคัก และกลุ่มที่แรง ก็คือกลุ่มสปอร์ต เนื่องจากเทรนด์มาแรงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
Q : แผนรุกตลาดให้ตรงความต้องการลูกค้า
วันนี้ มอเตอร์ไซค์กับแนวไลฟ์สไตล์ถือเป็นเรื่องที่แยกกันไม่ออก และยังเป็นโจทย์ที่ท้าทายพวกเรามากขึ้น โครงการ "คับ เฮ้าส์" ถือเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์รูปแบบใหม่ที่เราอยากนำเสนอให้กับลูกค้า ด้วยการนำแฟชั่นมาผสมผสานกับรถจักรยานยนต์ ลูกค้าที่เข้ามา อาจจะอย่างนั่งดื่มกาแฟและนั่งชมรถมอเตอร์ไซค์ ภายในคับ เฮ้าส์ และให้เป็นสถานที่แฮงเอาท์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่มีไลฟ์สไตล์ มีความเป็นตัวของตัวเอง มองหาความต่าง และมีแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์ประสบการณ์ใหม่ ๆ กับรถจักรยานยนต์คุณค่าใหม่ ผ่านสัมผัสทั้ง 5 รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส เพื่อสร้างสรรค์เรื่องราวความสนุกใหม่ ๆ ของตัวเองผ่านองค์ประกอบหลักของร้านคือ Culture, Unique, Bike จะสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ซึ่งจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการราวเดือนเมษายนนี้ ย่านเอกมัย และถือเป็นครั้งแรกของโลก ที่ทำในรูปแบบนี้
เบื้องต้นเราใช้งบฯลงทุน 20 ล้านบาทและอนาคตมีแผนที่จะขยายคับ เฮ้าส์ออกไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศด้วยและจะแตกต่างจากที่มีอยู่ทั้งในวิงเซ็นเตอร์ที่ขายรถจักรยานยนต์สแตนดาร์ด และบิ๊กวิง ที่ขายรถบิ๊กไบก์
ปีนี้เรายังมีอะไรที่น่าตื่นเต้นตลอดทั้งปี หรือจะเรียกได้ว่า เรามีความตื่นเต้นมาให้ลูกค้า และคนในแวดวงมอเตอร์ไซค์จะตื่นเต้นเร้าใจกับเรา เอ.พี.ออนด้าไปทุกเดือนนั่นเอง
Q : เอ.พี.ฮอนด้ากับมอเตอร์สปอร์ต
เราอยู่ในวงการมอเตอร์สปอร์ตมานานถึง 30 กว่าปี มีการส่งนักแข่งไทยไปแข่งขันในรายการต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่องและโลกของมอเตอร์ปอร์ต วันนี้ย้ายความคึกคักมาสู่เอเชีย ซึ่ง เอ.พี.ฮอนด้า ต้องการท้าทายตัวเราเองด้วยการสร้างทีมแข่ง ที่เป็นคนไทยทั้งหมด เพื่อไปสู่เป้าหมายในรายการโมโตจีพี (Moto GP) ในปี 2025 จะมีนักแข่งสายเลือดไทยสู่เวทีระดับโลก เราต้องพึ่งพาตัวเราเอง พยายามพัฒนาทีมช่าง โค้ช นักแข่ง ทุก ๆ ส่วนของทีมก่อน เริ่มไปทีละสเต็ป
นอกจากนี้เรามีการสร้างนักแข่งหน้าใหม่ขึ้นมาอย่างต่อเนื่องผ่านโครงการต่าง ๆ มีอะคาเดมี คัดเลือกนักแข่งมาเข้าโปรแกรมฝึกฝนและพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่องด้วย
วันนี้ เอ.พี.ฮอนด้า สร้างเวทีไว้ให้เรียบร้อยแล้ว และเป็นบันไดขั้นแรกในการไล่ล่าความฝัน เพราะเราเชื่อว่า ตามคอนเซ็ปต์ของเราว่า "มุ่งไปอย่าให้อะไรมาหยุดคุณได้" หรือ "WHAT STOPS YOU?” นั่นเอง