บทสัมภาษณ์ Mr. Yoshitsugu Miyajima ประธานบริษัท OKK ว่าด้วยการเสริมศักยภาพการผลิต Machine tools และแนวทางด้าน IoT
ยอดออเดอร์สูงขึ้นจากการฟื้นตัวของตลาด - ภาคอุตสาหกรรมกำลังตื่นตัวจากการคาดการณ์ยอดออเดอร์เครื่องจักรปี 2018 ซึ่งทำลายทุกสถิติที่เคยมีมา แน่นอนว่า OKK ซึ่งมี Machining Center เป็นกำลังหลัก ก็ได้เล็งไปที่ความต้องการด้านยานยนต์และเซมิคอนดัคเตอร์ อีกทั้งยังมีความคืบหน้าในการเสริมประสิทธิภาพการผลิตเพื่อรับกับการฟื้นตัวของตลาดเครื่องจักรก่อสร้าง(Construction Equipment) และตลาดด้านพลังงาน ส่วนแนวทางถัดจากนี้ไปจะเป็นเช่นไรนั้น Mr. Yoshitsugu Miyajima จะเป็นผู้ให้คำตอบ
อุปสงค์ด้านเซมิคอนดัคเตอร์ยังคงมั่นคง และในด้านที่บริษัทเชี่ยวชาญก็ฟื้นตัวแล้วสินะครับ
“ตอนนี้ตลาดเครื่องจักรก่อสร้างในญี่ปุ่นฟื้นตัว เครื่องจักรของเราจึงได้รับความสนใจมากขึ้น ในขณะที่โครงการด้านพลังงานในอเมริกาเหนือเองก็กำลังเติบโต ซึ่งส่งผลให้ยอดเครื่องจักรสำหรับงาน Heavy-duty Cutting ซึ่งเป็นผลิตภัณพ์เรือธงของบริษัทมีออเดอร์เพิ่มขึ้น
ส่วน Grinding Center สำหรับงานเซรามิคนั้น ก็ได้อุปสงค์จากภาคเซมิคอนดัคเตอร์และชิ้นส่วนสำหรับอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ใช้ใน IoT ที่มีแนวโน้มที่ดีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2017 และยังคงมากขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังมีอุปสงค์จากการฟื้นตัวของตลาดเซมิคอนดัคเตอร์และยานยนต์ในประเทศจีนอีกด้วย”
ในขณะเดียวกัน ปัญหาขาดแคลนขิ้นส่วนสำคัญอย่าง Ball Screw และ Linear Motion Guide ก็กลายเป็นประเด็นที่น่าเป็นห่วงสินะครับ
“ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างการเร่งรัดขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การสั่งชิ้นส่วนล่วงหน้า และเปลี่ยนวิธีการทำงานจากเดิมที่จะประกอบเครื่องเมื่อได้รับออเดอร์ เป็นการประกอบเครื่องรอไว้เพื่อให้พร้อมจัดส่งได้ทันที รวมถึงการสต็อกชิ้นส่วนเพิ่มเติม ซึ่งเป็นวิธีการที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน”
มีแนวทางใหม่ ๆ อย่างไรในด้าน IoT ซึ่งมีบทบาทในด้านระบบอัตโนมัติและการประหยัดแรงงานบ้าง
“เรามีแนวทางการเพิ่มฟังค์ชั่น “เน็ตมอนิเตอร์” เพื่อใช้คอมพิวเตอร์ในการตรวจสอบสภาพเครื่องจักร และอยากจะนำข้อดีที่ได้มาเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันเรามีลูกค้าทั้งที่เป็นธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางจำนวนมาก แต่ละรายก็มีความต้องการที่ต่างกันไป จึงอยากจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายให้ได้เหมือนกับการปรับแต่งเครื่องจักร”
ปี 2018 นี้ เป็นหนึ่งใน milestone ของแผนธุรกิจระยะ 10 ปี ตั้งแต่ 2016 ถึง 2025 สินะครับ
“เราตั้งปี 2018 นี้เป็นปีสุดท้ายของแผนธุรกิจระยะแรกจากทั้งหมด 3 ระยะ ซึ่งเราอยากให้ผลลัพธ์จากการพัฒนาโครงสร้างการผลิตที่ผ่านมา 2 ปีนี้ รวมถึงการส่งเสริมด้านการอบรมพนักงานเพื่อยกระดับเทคโนโลยีของเราขึ้นไปอีก”