Huawei บริษัทสัญชาติจีนเผย จากการลงทุนวิจัยและพัฒนา “Mate 10 Pro” สมาร์ทโฟนที่มาพร้อม AI processor ผลักดันให้บริษัทสามารถครองส่วนแบ่งตลาดมากเป็นอันดับ 3 ของโลกโดยรองประธานบริษัท Huawei Japan Mr. Wu Bo ได้เผยกลยุทธ์ที่ใช้ในตลาดญี่ปุ่น

- เป้าหมายถัดจากการเป็นผู้นำตลาดมือถือไม่ติดสัญญาในญี่ปุ่นคืออะไร

“เราอยากจะรุกเข้าสู่ทุกตลาด และรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดมือถือไม่ติดสัญญา รวมถึงตลาดผู้ให้บริการการสื่อสารเอาไว้ ซึ่ง Mate 10 Pro ที่มีราคาสูงราว 90,000 เยนจะเป็นการนำร่องตลาดสมาร์ทโฟนไฮคลาส ที่บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมให้กับลูกค้าได้ และยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่แสดงศักยภาพทางเทคโนโลยีของบริษัท เพื่อลบล้างภาพลักษณ์ “สมาร์ทโฟนราคาถูก” ของโทรศัพท์ไม่ติดสัญญา เพื่อยกระดับตลาดให้สูงขึ้น”

- AI ใน Mate 10 Pro ทำให้ประสิทธิภาพของกล้องและการจัดการข้อมูลสูงขึ้นมากเช่นนี้แล้ว อนาคต AI จะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟนหรือไม่

“ในอนาคต AI จะกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในสมาร์ทโฟน และฟังค์ชั่นที่ใช้ AI ก็จะมีมากขึ้นไปอีก โดยรุ่น Mate 10 Pro ได้นำ AI มาใช้ในฟังค์ชั่นแปลภาษาที่รวมถึงการแปลภาษาบนภาพและเสียงจากกล้อง นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดบริการคลาวด์ที่ใช้ AI ในประเทศจีนอีกด้วย เช่น บริการสมาร์ทโฮม”

- ยอดขายของสมาร์ทโฟนระดับกลางอย่าง “P9 Lite” และ “P10 Lite” ก็ดูเป็นไปได้ดี

“เนื่องจาก “P Lite” และ “nova Lite” ของทางบริษัทนั้นทำตลาดได้ดี ทำให้บริษัทอื่น ๆ เติมคำว่า Lite ลงไปท้ายชื่อสินค้าของตนบ้าง ทำให้กลายเป็นค่านิยมว่า Lite = ขายได้ขึ้นมา และการถูกเลียนแบบเช่นนี้ก็เหมือนกับการสร้างมูลค่าของแบรนด์เราให้มากขึ้นอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งทางเรา ก็อยากให้โมเดลเรือธงอย่าง “P” และ “Lite” มีภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ใช้งานได้จริงและไว้ใจได้ให้กับลูกค้า”

- ปัจจัยที่ทำให้เจาะตลาดญี่ปุ่นได้คืออะไร

“บริษัทเราทำการรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ จากหลายๆ เว็บไซต์ในอินเตอร์เน็ต กระทั่งผมเองยังเข้าไปอ่านคอมเมนท์ที่เขียนไว้ตามโซเชี่ยลเน็ตเวิร์คและเว็บรีวิวสินค้า นอกจากนี้ ยังลงพื้นที่ที่วัยรุ่นนิยมอย่างฮะระจุกุเพื่อตรวจสอบแบรนด์ที่วัยรุ่นนิยมไปจนถึงอินสตาแกรม เพื่อตรวจสอบว่า “เทรนด์ของญี่ปุ่นคืออะไร และจะเปลี่ยนไปในทิศทางไหน” ซึ่งหัวใจของเรานี่ล่ะที่ต้องเข้าใจเด็ก จะได้สร้างเทรนด์ให้กับวัยรุ่นได้”