ยักษ์อุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นเร่งปรับกลยุทธ์ในจีน ท่ามกลางสงครามราคา EV

ยักษ์อุตสาหกรรมรถยนต์ญี่ปุ่นเร่งปรับกลยุทธ์ในจีน ท่ามกลางสงครามราคา EV

อัปเดตล่าสุด 15 ก.ค. 2567
  • Share :
  • 1,891 Reads   

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นกำลังถูกบังคับให้ปรับกลยุทธ์ในจีนใหม่จากยอดขายที่ลดลง โดย Nissan ได้ปิดโรงงานบางแห่งในเดือนมิถุนายน ฝั่ง Honda กำลังวางแผนลดพนักงาน และ Mitsubishi ได้ถอนตัวออกจากตลาดแล้ว ในขณะที่ผู้ผลิตรถยนต์ท้องถิ่นกำลังเพิ่มยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ (NEVs) นี่อาจถึงเวลาที่ผู้ผลิตญี่ปุ่นจะต้องเรียนรู้วิธีการผลิตรถยนต์แบบจีนบ้างแล้ว

Advertisement

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา Nissan  ปิดโรงงานในฉางโจว มณฑลเจียงซู ประเทศจีน โรงงานแห่งนี้เป็นโรงงานที่ทันสมัยซึ่งเปิดดำเนินการในปี 2563 มีกำลังการผลิต 130,000 คันต่อปี คิดเป็นประมาณ 10% ของกำลังการผลิตทั้งหมดในจีน แต่การปิดโรงงานนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มประสิทธิภาพกำลังการผลิตได้

บริษัทอื่น ๆ ก็ถูกบังคับให้เปลี่ยนกลยุทธ์เช่นกัน ในเดือนพฤษภาคม Honda Motor เริ่มเปิดโครงการสมัครใจลาออกหรือเกษียณอายุก่อนกำหนดที่บริษัทร่วมทุนในจีน Guangqi Honda (กว่างโจว มณฑลกวางตุ้ง) ขณะที่ Mitsubishi Motors ยุบกิจการร่วมค้ากับบริษัทท้องถิ่นในปี 2566 และจะมุ่งเน้นตลาดกลุ่มประเทศอาเซียน 

ปัญหาของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นเกิดจากการขยายตัวของรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์พลังงานใหม่อื่น ๆ (NEVs) ด้วยการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ยอดขาย NEVs ในปี 2564 เพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 37.9% จากปีก่อนหน้ามาอยู่ที่ 9,495,000 คัน ซึ่งคิดเป็นมากกว่า 30% ของตลาดทั้งหมด

ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นที่มุ่งเน้นรถยนต์น้ำมันเบนซินขาด NEVs ที่มีความสามารถในการแข่งขันและมียอดขายที่ซบเซา จากข้อมูลของบริษัทวิจัย MarkLines จำนวนรถยนต์ที่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นขายได้ลดลงจาก 4,567,600 ในปี 2562 มาอยู่ที่ 3,829,000 ในปี 2566 ซึ่งส่วนแบ่งการตลาดลดลงจาก 21.3% มาอยู่ที่ 14.7% และในช่วงมกราคม-พฤษภาคม 2567 ส่วนแบ่งการตลาดลดลงเหลือ 12.4%

สถานการณ์ที่มีกำลังการผลิตล้นยังไม่ได้รับการแก้ไข และการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงขึ้นจะนำไปสู่ภาวะเงินฝืดในอุตสาหกรรมรถยนต์ มันกลายเป็นการต่อสู้ของความอดทน และผู้ผลิตญี่ปุ่นจะอยู่ในสถานการณ์ที่ “ต้องอดทนสู้ไปอีกหลายปี” (Yoichi Miyazaki รองประธานบริหาร Toyota Motor Corporation)

Seiji Sugiura นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Tokai Tokyo Intelligence Lab กล่าวว่า “สถานการณ์ในปัจจุบันต่างจากที่ผู้ผลิตญี่ปุ่นคาดคิดไว้เมื่อสองหรือสามปีก่อนมาก ถึงเวลาที่ต้องประเมินกลยุทธ์ใหม่ โดยสมมติว่าตลาดจะไม่เติบโต การปฏิรูปโครงสร้างที่สอดคล้องกับตลาดเป็นสิ่งสำคัญ และหากทำได้ยาก การถอนตัวจะกลายเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้”

กลยุทธ์สำหรับการกลับมาคืออะไร? Nakanishi Takaki นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Nakanishi Automotive Industry Research ย้ำว่า “วิธีการแก้ปัญหาคือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถขายในจีนและมีความสามารถในการแข่งขันด้านต้นทุน ถึงเวลาที่จะต้องเรียนรู้วิธีการผลิตรถยนต์แบบจีนแล้ว”

เพื่อที่จะกลับมา ผู้ผลิตญี่ปุ่นจะเปิดตัว NEVs รุ่นถัดไประหว่างปลายปี 2567 ถึง 2568 นอกจากนี้ ในเดือนเมษายน Toyota ประกาศว่าจะเสริมความร่วมมือกับ Tencent บริษัทไอทีรายใหญ่ของจีน สองบริษัทจะร่วมมือกันในด้านปัญญาประดิษฐ์สำหรับรถยนต์ รวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูงและมัลติมีเดีย บริษัทจีนล้ำหน้าในด้านซอฟต์แวร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ดังนั้นความร่วมมือในด้านไอทีจึงดูเหมือนจะเป็นกุญแจสำคัญ

ถึงเวลาที่ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นต้องแข่งขันไม่เพียงแต่ในตลาดจีนแต่ยังในระดับโลก การเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในจีนจะกำหนดอนาคตของผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่น

#ElectricVehicles #รถยนต์ไฟฟ้า #NEVs #China #Japan #Mreport #ข่าวอุตสาหกรรม

บทความยอดนิยม 10 อันดับ

 

อัปเดตข่าวทุกวันที่นี่ www.mreport.co.th   

Line / Facebook / Twitter / YouTube @MreportTH