สุมิพล มั่นใจอุตสาหกรรมไทยเติบโตต่อเนื่องในปี 2562
Sumipol Corporation หนึ่งในผู้นำด้านเครื่องจักรกลและเครื่องมืออุตสาหกรรมของประเทศไทยมานานถึง 30 ปี โดยจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ซูเปอร์แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น และแบรนด์ชั้นนำจากทั่วโลก อาทิ Sumitomo, OSG, A.L.M.T., BIG Daishowa, Mitutoyo, DMG MORI, Fanuc, Nachi, Faro, Trusco และอื่น ๆ โดย คุณจิระพันธ์ อุลปาทร ประธานกรรมการ บริษัท สุมิพล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เปิดเผยกับสำนักข่าว M Report เกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทยปี 2562 ว่า “มีความมั่นใจในความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย โดยเฉพาะแนวโน้มการลงทุนต่อเนื่องจากนักลงทุนญี่ปุ่น ซึ่งได้วางรากฐานการผลิตในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน จะเห็นได้ว่า ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมาผู้ผลิตจากญี่ปุ่นมีการลงทุนในประเทศไทยมากกว่าครึ่งหนึ่งของการลงทุนทั้งหมด”
มุมมองต่อเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมไทย
“ด้วยการวางรากฐานทางด้านยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ของรัฐบาลโดยประกาศเป็นกฎหมาย ซึ่งเป็นแผนระยะยาวอันเป็นปรากฏการณ์ใหม่ ในการกำหนดทิศทางการสร้างความยั่งยืนของประเทศ ทำให้การดำเนินงานมีความชัดเจน สามารถใช้เป็นแนวทางให้ทุกภาคส่วนได้ โดยเฉพาะการกำหนดแผนการลงทุนครั้งใหญ่ที่นับเป็นเมกะโปรเจกต์ ภายใต้ชื่อ “โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก – Eastern Economics Corridor (EEC)” ที่ดึงดูดให้ผู้ลงทุนจากต่างประเทศ รวมถึงภายในประเทศเข้ามาลงทุนใหม่ และขยายการลงทุนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และการที่รัฐบาลประกาศส่งเสริมอุตสาหกรรม 10 S-curve โดยให้การสนับสนุนสิทธิประโยชน์อย่างเต็มที่ การลงทุนในปัจจัยพื้นฐานเน้นหนักด้านคมนาคม ทำให้เกิดความเชื่อมั่นว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้จะสร้างความเติบโตให้แก่เศรษฐกิจอุตสาหกรรมไทยสู่ยุค 4.0 แม้ว่าการลงทุนต่าง ๆ ได้เริ่มเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมชัดเจนตั้งแต่กลางปีที่แล้ว แต่จากการประกาศตัวเลขคาดการณ์ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) พบว่า ภายในปี 2562 เป็นต้นไป จะมีการลงทุนปีละไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท และคาดว่าอีก 5 ปีนับจากนี้ การลงทุนใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในภาคตะวันออก จะสร้างแรงกระตุ้นให้เศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเติบโตอย่างมั่นคง แม้ว่าเศรษฐกิจโลกยังอาจชะลอตัวอยู่บ้างเนื่องจากปัจจัยหลายอย่าง เช่น ความขัดแย้งด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกา แต่ก็น่าจะเชื่อได้ว่าเศรษฐกิจของไทยยังเติบโตได้ตามเป้าหมายที่มี GDP มากกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลักของการผลิตในด้านโลหะการนั้น ก็ได้มีการประกาศตัวเลขเมื่อต้นปีว่าจะมียอดการผลิตใกล้เคียงกับปี 2561” คุณจิระพันธ์กล่าว
โอกาสและความท้าทายที่ต้องเผชิญ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาหลังจากเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร ประเทศไทยต้องเผชิญกับแรงกดดันจากภายนอกเป็นอย่างมาก พืชผลทางการเกษตรก็ไม่เอื้ออำนวยในเรื่องของการแข่งขัน ทำให้เกษตรกรต่างประสบกับความยากลำบาก อย่างไรก็ตามสองปีสุดท้ายที่เพิ่งผ่านไปผลิตผลทางการเกษตรปรับตัวดีขึ้นถึงแม้จะไม่มากแต่ก็ยังทำให้เกษตรกรสามารถอยู่รอดได้ ในปี 2562 และจากนี้ไปได้มีการแก้ปัญหาเรื่องสำคัญ ๆ เช่น การเคลียร์สต็อคข้าวคุณภาพต่ำ การสร้างดีมานด์ของผลิตภัณฑ์ยางภายในประเทศ รวมถึงการอัดฉีดงบประมาณเพิ่มรายได้ให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อยในรูปแบบของรัฐสวัสดิการ ทำให้ GDP ของไทยเมื่อปีที่แล้วเติบโตมากกว่า 4 เปอร์เซ็นต์ “ประเด็นสำคัญก็คือในเดือนมีนาคม 2562 นี้จะมีการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งคิดว่าหลังจากการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเรียบร้อยแล้ว ในสายตาของต่างชาติจะมองประเทศไทยดีขึ้น ความคล่องตัวในการค้าขายกับต่างประเทศ โดยเฉพาะการส่งออกก็จะดีตามไปด้วย แม้ว่าค่าเงินบาทของไทยจะแข็งตัวมากกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคก็ตาม สิ่งที่ยังเป็นความหนักใจที่เรายังต้องเผชิญคือความผันผวนของเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่มีความเข้มแข็งพอ ข้อขัดแย้งทางการค้าของประเทศมหาอำนาจยังค้างคาอยู่ ทำให้ประเทศไทยอาจจะต้องต่อสู่กับความท้าทายเหล่านี้ต่อไป แต่ก็ยังคาดหวังได้ว่าเศรษฐกิจภายในประเทศจะดีขึ้น โดยเฉพาะข่าวดีต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีทิศทางเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ในขณะเดียวกันรัฐบาลเองก็จะต้องหยุดยั้งมลภาวะของฝุ่นพิษ PM 2.5 ให้ลดลงสู่เกณฑ์มาตรฐานโดยเร็ว ดังนั้น คงพอจะเชื่อได้ว่ารัฐบาลใหม่จะนำพานโยบายต่าง ๆ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เจริญก้าวหน้าต่อไป”
เป้าหมายและยุทธศาสตร์ขององค์กร
ดังที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้นแล้วว่าประเทศไทยและอุตสาหกรรมไทยกำลังเดินหน้าสู่ยุค 4.0 การพัฒนาการผลิตที่ทันสมัย จึงเป็นหัวข้อสำคัญที่ผู้จัดจำหน่ายอย่างสุมิพลฯ ต้องคำนึงถึง คุณจิระพันธ์ได้แสดงวิสัยทัศน์ที่สามารถจับต้องได้ว่า “ตั้งแต่ปี 2562 สุมิพลได้ปรับตัวเองให้เป็นองค์กรที่สามารถบริการภายใต้สโลแกนใหม่ว่า The Total Industrial Service Provider ด้วยการให้บริการเบ็ดเสร็จ 3 Solutions จะมีการปรับตัวครั้งใหญ่เสนอบริการแก่ทุกอุตสาหกรรมการผลิตอย่างแท้จริง โดยไม่เพียงแต่เน้นการขายสินค้าแบรนด์ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น แต่จะควบคู่กับกระบวนการทำงานใกล้ชิดกับลูกค้าในไลน์การผลิต ด้านการเลือกเครื่องจักรกลและเครื่องมืออุปกรณ์ กำหนดวิธีการใช้เครื่องมืออย่างถูกต้องและเหมาะสม จนถึงระบบควบคุมคุณภาพและการปรับตัวสู่การผลิตอัตโนมัติ ตามกำลังและความต้องการของลูกค้าเฉพาะราย” โดยแบ่งงานหลักเป็น 3 ส่วน คือ
1) Machining Solutions
การพัฒนากระบวนการทำงานด้านการผลิตชิ้นส่วนโลหการเพื่อให้ผู้ผลิตสามารถทำงานได้อย่างประสิทธิภาพสูงสุด
2) Automation Solutions
การเยี่ยมชมสถานที่ผลิตจริง ตรวจสอบปัญหาที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการผลิตร่วมกับลูกค้า เพื่อให้คำแนะนำในการพัฒนาการทำงานและปรับปรุงระบบซอฟต์แวร์เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต
3) Measuring Solutions
นำเสนอเทคโนโลยีที่เปลี่ยนการวัดค่าและประเมินผลซึ่งแต่เดิมมักจะใช้คนจดบันทึก ให้เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติเต็มรูปแบบ โดยกำหนดเครื่องจักรกลเครื่องมือการวัดพร้อมซอฟต์แวร์ เพื่อความแม่นยำและมีประสิทธิภาพสูงกว่าที่เคยปฏิบัติ
“ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงพัฒนาไปเร็วมาก เราจึงต้องสร้างความพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนบริการให้ต่างจากรูปเเบบเดิม ๆ โดยมุ่งประโยชน์สูงสุดของลูกค้าเป็นอันดับแรก”
ศูนย์เทคนิคแห่งการเรียนรู้มิติใหม่
นอกจากนั้นสุมิพลได้ก่อตั้งสำนักงานภาคตะวันออกแห่งใหม่ที่จังหวัดระยอง พร้อมสร้างศูนย์เทคนิคแห่งการเรียนรู้ไว้ในที่เดียวกัน เพื่อรองรับในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor - EEC) ณ ทางเข้านิคมอมตะซิตี้ ระยอง ด้วยความร่วมมือกับภาครัฐและเอกชน 14 องค์กร และผู้ผลิตเครื่องจักรกลและเครื่องมืออุปกรณ์การผลิตชั้นนำเพื่อสนับสนุนด้านพัฒนาบุคลากรของชาติในรูปแบบการสานพลังประชารัฐ โดยได้กำหนดชื่ออย่างเป็นทางการแล้วคือ “สถาบันเทคโนโลยีการผลิตสุมิพล” (Sumipol Institute of Manufacturing Technology – SIMTec) ซึ่งเป็นศูนย์ฝึกอบรมทั้งภาคทฤษฎีและการปฏิบัติงานจริงแก่ วิศวกร ช่างเทคนิค บุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนนักเรียนนักศึกษา โดยผู้ชำนาญการจากองค์กรแห่งความร่วมมือ ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้น ณ ที่ใดมาก่อน ขณะนี้อาคารสถานที่ได้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว มีแผนที่จะเปิดให้การฝึกอบรมได้ในไตรมาสที่ 2 นี้
ศูนย์ฝึกอบรมที่แตกต่างและเกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย
ด้วยพื้นที่อาคารกว่า 7,500 ตารางเมตร ประกอบด้วยห้องเรียน ห้องอบรม และห้องสัมมนาขนาดใหญ่ บนเนื้อที่ 7 ไร่ พร้อม Workshop ที่ติดตั้งเครื่องจักรกล เครื่องมืออุปกรณ์ และเครื่องใช้สำหรับการฝึกปฏิบัติการจริงในหลากหลายสาขา
มีห้องสาธิตการวัด ระบบ QC และสายการผลิตอัตโนมัติ (Smart Factory) โดยมีการเรียนการสอนในรูปแบใหม่ ๆ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งนี้จะเป็นการให้บริการที่ไม่ได้มุ่งแสวงหากำไร
ภารกิจนี้จะสามารถช่วยพัฒนาอุตสาหกรรมให้ก้าวขึ้นสู่ 4.0 ได้เร็วขึ้น เเละช่วยตอบคำถามของผู้ลงทุนเกี่ยวกับการขาดแคลนบุคลากรทักษะความชำนาญงานในสาขาที่จำเป็นต่าง ๆ ได้อย่างเเท้จริง
คุณจิระพันธ์ได้กล่าวทิ้งท้ายว่า “สุมิพลมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะดำเนินการด้านการพัฒนาบุคลากรของชาติ โดยถือเป็นพันธกิจสำคัญควบคู่กับการดำเนินธุรกิจในด้านเครื่องจักรกล เเละเครื่องมืออุตสาหกรรม ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่องตลอดไป”