ทำไม TOGO TOOL & DIE สร้างโรงงานใต้ภูเขา
TOGO Co., Ltd. ผู้ผลิตแม่พิมพ์ที่มีความเที่ยงตรงสูง ที่ค่าความเที่ยงตรง +/- 0.001 (High-Precision Press Die, Tolerance +/- 0.001) สำหรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ผลิต ไปจนถึงบริการหลังการขาย โรงงานหลักอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น และโรงงานอีกหนึ่งแห่งนอกญี่ปุ่น โดยเลือกประเทศไทยเป็นที่ตั้ง ภายใต้ชื่อ TOGO TOOL & DIE Co., Ltd. เมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2556 ที่ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี
โรงงานแห่งนี้มีความน่าสนใจในเรื่องวิธีคิด ที่เป็นแกนสำคัญในการทำสิ่งที่แตกต่างจากโรงงานประเภทเดียวกันอยู่หลายอย่าง โดย Mr. Masakatsu Higashi กรรมการผู้จัดการของ TOGO TOOL & DIE ได้สะท้อนให้เห็นถึงวิธีคิดที่ลึกซึ้งแต่เรียบง่าย ชิ้นงานจะออกมาดีได้นั้น ต้องมาจากพื้นฐานที่ดี แล้วองค์ประกอบของพื้นฐานที่ดีมีอะไรบ้าง เราจะเล่าให้ฟังในบทสัมภาษณ์พิเศษนี้
อุณหภูมิแบบธรรมชาติ ผลลัพธ์จากโรงงานใต้ภูเขา
แนวคิดในการสร้างโรงงานใต้ภูเขาถูกริเริ่มมาจาก โรงงาน TOGO ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งก่อตั้งในปี พ.ศ. 2528 โดย Mr. Naruo Higashi ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO และ Mr. Masakatsu Higashi ได้ช่วยกันคิดขึ้นมา ในครั้งนั้นพวกเขาได้แรงบันดาลใจมาจาก “ฐานยิงจรวด (Rocket Base)” และนำมาต่อยอดจนออกมาเป็นอาคารโรงงานพิเศษโครงสร้างใต้ดิน (Underground structure special factory building) ลักษณะเดียวกับโรงงานที่ประเทศไทย
โดยแนวคิดดั้งเดิมนั้นจะต้องขุดดินให้เป็นหลุมลึกขนาดใหญ่เพื่อสร้างโรงงานที่สามารถมีอุณหภูมิคงที่ในระดับ 23-24︒C ได้ และด้วยประเทศญี่ปุ่นมีฤดูที่หลากหลาย ฤดูร้อนจะร้อนมาก ในขณะที่ฤดูหนาวก็หนาวจัด จึงทำให้การควบคุมอุณหภูมิคงที่ตลอดทั้งปีเป็นเรื่องที่ยากมากขึ้น ดังนั้น อาคารโรงงานพิเศษโครงสร้างใต้ดินนี้จะช่วยให้การมีอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการผลิตแม่พิมพ์ที่มีความแม่นยำสูงเป็นไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ
แต่เมื่อสำรวจแนวทางการก่อสร้างและงบประมาณแล้ว ก็พบว่างบประมาณในการสร้างโรงงานนั้นสูงมาก จึงมองหาทางเลือกที่จะสามารถได้ผลลัพธ์เดียวกัน ทำให้เลือกที่จะนำดินมาถมโดยรอบของโรงงานให้เป็นลักษณะภูเขา ทดแทนการขุดหลุมลึกขนาดใหญ่ และลดงบประมาณลงไปได้ถึง 75%
อาคารโรงงานพิเศษโครงสร้างใต้ดิน (Underground structure special factory building) ประกอบด้วย
- ชั้นล่าง คือ ส่วนการผลิตที่มีเพียงประตูขนาดใหญ่สำหรับรถบรรทุก 1 ประตู และประตูขนาดเล็กอีก 1 ประตู ชั้นล่างนี้ไม่มีหน้าต่าง
- ชั้นบน คือ ทางเข้าสำนักงาน และมีบันไดที่เชื่อมต่อลงไปยังชั้นล่างโดยมีประตูกระจกกั้นเพื่อป้องกันการไหลของอากาศที่เย็นกว่า
- ฐานคอนกรีต คั่นระหว่างชั้นสำนักงาน-ส่วนการผลิต หนา 50 เซนติเมตร
- ด้านข้างของผนังโรงงานถูกปกคลุมด้วยดิน หรือจะเรียกว่าเป็น “ผนังดิน” ก็ได้ โดยส่วนหนาที่สุดมีความหนาที่ 3 เมตร และลดหลั่นไล่ระดับขึ้นไปเป็นรูปทรงภูเขา
ภายในชั้นล่างติดตั้งเครื่องปรับอากาศจำนวนไม่มากนัก โดยจะติดตั้งในห้องที่มีเครื่องจักรหลายเครื่องเป็นหลัก เพื่อช่วยขจัดความร้อนจากการทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานของเครื่องจักร และยังช่วยยืดอายุการทำงานของเครื่อง และประหยัดค่าไฟของเครื่องปรับอากาศอีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการใช้ท่ออากาศบริหารการไหลของลมเย็นให้กระจายไปยังส่วนอื่น ๆ รวมถึงทางเดิน
สำหรับการจัดวางแผนผังของเครื่องจักรก็เป็นเรื่องสำคัญ โดยบริเวณใกล้ประตูที่ซึ่งการควบคุมอุณหภูมิให้คงที่เป็นไปได้ยากกว่านั้น จะเป็นที่สำหรับตั้งเครื่องจักรสำหรับงานกัดหยาบซึ่งไม่ต้องควบคุมอุณหภูมิมากนัก ถัดมาด้านในจะตั้งเครื่องเจียร (Grinding Machine) เครื่องไวร์คัท (Wire-cut EDM Machine) และจบกระบวนการผลิตที่ส่วนของการตรวจวัดคุณภาพ
วิศวกรหญิง เพราะผู้หญิงมีความตั้งใจและพยายาม
ในการทำงานที่ต้องการความเที่ยงตรงสูง ความชำนาญและความเอาใจใส่เป็นเรื่องสำคัญมาก ด้วยความชำนาญของวิศวกรที่โรงงานในประเทศไทยยังไม่เท่ากับโรงงานที่ญี่ปุ่น เราจึงทุ่มเทในการฝึกสอนบุคลากรทั้งในด้านทักษะและเทคโนโลยีให้ได้มากที่สุด และจัดโครงการส่งวิศวกรไปทำงานที่โรงงานในประเทศญี่ปุ่น เพื่อยกระดับประสบการณ์และความรู้ให้กับบุคลากร โดยโรงงานที่ประเทศไทยจะเน้นรับวิศวกรหญิง เพราะผู้หญิงมีความตั้งใจและพยายาม ให้ความเอาใจใส่ในเรื่องของมาตรฐานชิ้นงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาก ทำให้ปัจจุบัน TOGO TOOL & DIE สามารถผลิตงานแม่พิมพ์ที่มีสเปคเทียบเท่ากับโรงงานที่ญี่ปุ่น และปัจจุบันวิศวกรชำนาญงานส่วนใหญ่ของ TOGO TOOL & DIE เป็นวิศวกรหญิง
งานที่ดีต้องสร้างจากเครื่องจักรที่ดี
ด้วย TOGO TOOL & DIE เป็นผู้ผลิตแม่พิมพ์ที่มีความเที่ยงตรงสูง ที่ค่าความเที่ยงตรง +/- 0.001 (High-Precision Press Die, Tolerance +/- 0.001) สำหรับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ผลิต ไปจนถึงบริการหลังการขายชิ้นงานนั้น ทำให้เลือกใช้เครื่องไวร์คัท (Wire-cut EDM Machine) ที่มีความแม่นยำสูงสำหรับกัดแม่พิมพ์จาก Sodick ทั้งหมดรวม 6 เครื่อง
โดยเป็นเครื่อง Wire-cut EDM ที่กัดงานในน้ำมัน 2 เครื่อง ซึ่งจะถูกใช้ในงานที่ต้องการผิวเรียบ มัน วาว เป็นพิเศษ และแบบกัดงานในน้ำ 4 เครื่อง
ท้าทาย จริงใจ ริเริ่ม ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า
ปัจจุบันผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศไทย ส่วนใหญ่นำเข้าแม่พิมพ์ที่มีความเที่ยงตรงสูงมาจากต่างประเทศ ซึ่ง TOGO TOOL & DIE เล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายฐานลูกค้าส่วนนี้ให้หันมาสั่งทำในไทยแทน เพราะจะได้ราคาที่ถูกกว่าการนำเข้าจากต่างประเทศ และลดระยะเวลาสั่งซื้อลงอีกด้วย
สำหรับฐานลูกค้าของบริษัทฯ มีอยู่ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งจะครอบคลุมประเทศญี่ปุ่นและประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะรับออเดอร์ตรงจากทางบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่น 30% และรับออเดอร์เองอีก 70% โดยในปี พ.ศ. 2560 ปิดยอดรายได้ที่ 50 ล้านบาท
ในด้านความเชื่อมั่น Mr. Higashi ยังระบุอีกว่า ประเทศไทยมีความหลากหลายของอุตสาหกรรมการผลิตชิ้นส่วน ทั้งในด้านลูกค้าและชิ้นงาน ทำให้เพิ่มโอกาสทางการตลาดให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น อันจะต่อยอดจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดชิ้นส่วนที่มีความเที่ยงตรงสูง (Precision parts) ในไทย
สำหรับการลงทุนในอนาคตของ TOGO TOOL & DIE นั้น มีความเป็นไปได้ที่จะสร้างโรงงานเพิ่มเพื่อขยายไลน์ธุรกิจไปสู่การผลิต Precistion parts ในรูปแบบ Mass production ให้แก่อุตสาหกรรมอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงอาจมีการลงทุนเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีสูงขึ้น ซึ่งเป็นความท้าทายในการรองรับงานตามที่ลูกค้าต้องการให้ได้
เกี่ยวกับ TOGO Co., Ltd. ประเทศญี่ปุ่น
TOGO Co., Ltd. บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งในเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2528 โดย Mr. Naruo Higashi ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่ง CEO มีโรงงานหลักในเมืองคากาตะ จังหวัดคาโกชิมะ ประเทศญี่ปุ่น 1 แห่ง และโรงงานในประเทศไทยอีกหนึ่งแห่ง มีตลาดหลักในต่างประเทศ ได้แก่ สิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ จีน ไต้หวัน และอินโดนิเซีย จุดเด่นของโรงงาน TOGO Co., Ltd. คือ โครงสร้างใต้ดินที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ มีคุณสมบัติในการรักษาอุณหภูมิ ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายนอก อีกทั้งโครงสร้างแบบตัดแยกฐานรากออกจากตัวอาคาร (seismic base isolation) เพื่อให้ทนทานต่อแผ่นดินไหว และยังออกแบบพื้นและโครงสร้างให้ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องจักร นอกจากนี้ TOGO Co.,Ltd. ยังมีส่วนร่วมในโครงการ KSAT (Kagoshima Satellite) ซึ่งถูกส่งขึ้นสู่อวกาศพร้อมกับยานสำรวจอวกาศ “Akatsuki” โดยจรวด H-IIA หมายเลข 17 เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 โดยอาศัยเทคโนโลยีของบริษัทในการลดน้ำหนักและเสริมความแข็งแรงของโครงสร้างดาวเทียม และเข้าร่วมโครงการพัฒนาจรวดขนาดเล็กนับตั้งแต่ปีงบประมาณ 2017 (พ.ศ. 2560)
ชมคลิป...ทำไม TOGO TOOL & DIE สร้างโรงงานใต้ภูเขา